วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2551

Culture of China


Architecture

Chinese architecture, examples of which can be found from over 2,000 years ago, has long been a hallmark of the culture. There are certain features common to Chinese architecture, regardless of specific region or use. The most important is its emphasis on width, as the wide halls of the Forbidden City serve as an example. In contrast, western architecture emphasize on height, though there are exceptions such as pagodas.
Another important feature is symmetry, which connotes a sense of grandeur as it applies to everything from palaces to farmhouses. One notable exception is in the design of gardens, which tends to be as asymmetrical as possible. Like Chinese scroll paintings, the principle underlying the garden's composition is to create enduring flow, to let the patron wander and enjoy the garden without prescription, as in nature herself. Feng shui has played an important part in structural development.

วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2551

วิธีใหม่จับให้ได้ไล่ให้ทันคนหลอกลวง


จังหวะการกระพริบตาของบิลล์ คลินตัน อดีตผู้นำสหรัฐฯ ในขณะนั้นอาจทรยศว่าเจ้าตัวกำลังปิดบังความสัมพันธ์อื้อฉาวกับโมนิกา ลูวินสกี้
เดิลเมล์ - นักวิจัยแนะถ้าอยากรู้ว่าคนตรงหน้าพูดจริงหรือโกหก ให้มองตาคนๆ นั้นให้ดี เพราะระหว่างและหลังจากที่ปั้นเรื่อง จังหวะการกระพริบตาของคนเรามักไม่เหมือนเดิม ดร.ชารอน ลีล จากมหาวิทยาลัยพอร์ตสมัท อังกฤษ ผู้ร่วมจัดทำรายงานฉบับนี้ แจงว่า ระหว่างเล่าความเท็จ คนๆ นั้นจะกระพริบตาน้อยกว่าปกติ แต่หลังจากนั้นจะกระพริบตาถี่ขึ้น 8 เท่า “ที่ผ่านมาความแตกต่างด้านพฤติกรรมระหว่างคนพูดจริงกับคนพูดโกหกไม่ค่อยมีใครให้ความสำคัญมากนักในการวิจัยเกี่ยวกับการตบตา” นักจิตวิทยาพูดถึงการค้นพบนี้ที่รายงานอยู่ในเจอร์นัล ออฟ นอน-เวอร์บัล บีแฮฟวิเออร์ว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนสามารถนำอัตราการกระพริบตาไปใช้ในการจับเท็จได้ ในการศึกษา อาสาสมัครกลุ่มหนึ่งถูกขอให้ทำกิจกรรมประจำวันตามปกตินานสิบนาที ขณะที่อีกกลุ่มได้โจทย์ให้ขโมยข้อสอบจากออฟฟิศ และปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ หลังจากนั้น นักทดลองซึ่งไม่รู้ว่าอาสาสมัครกลุ่มไหนพูดจริงกลุ่มไหนโกหก จะขอให้อาสาสมัครแต่ละคนเล่าสิ่งที่ทำไป โดยระหว่างนั้นจะมีการใช้อุปกรณ์ตรวจจับความเคลื่อนไหวของดวงตาของอาสาสมัคร ผลปรากฏว่า เมื่อมีการถามตอบ อัตราการกระพริบตาของกลุ่มที่โกหกจะลดลง ขณะที่ของกลุ่มที่พูดความจริงเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจเป็นเพราะความกังวลในการทดสอบ หลังจากการถามตอบจบลง อัตราการกระพริบตาของคนโกหกจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่อีกกลุ่มคงเดิม นักวิจัย อธิบายว่า การใช้สมาธิเพื่อสร้างเรื่องเท็จอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้กลุ่มที่โกหกไม่กระพริบตาระหว่างที่ปั้นเรื่อง “คนโกหกต้องพยายามกุเรื่อง และต้องจดจ่อกับเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อให้เรื่องนั้นดูน่าเชื่อถือ แถมยังต้องพยายามจำเรื่องที่โกหกให้ได้ตั้งแต่ประโยคแรกๆ เพื่อที่ว่าเมื่อเล่าใหม่เรื่องราวจะเหมือนเดิม รวมทั้งต้องจำให้ได้ด้วยว่าเล่าให้ใครฟังบ้าง “คนโกหกมีแนวโน้มมากกว่าคนพูดจริงที่จะพยายามควบคุมพฤติกรรมของตนเองเพื่อให้ดูน่าไว้ใจ “ส่วนเหตุผลที่อัตราการกระพริบตาถี่ขึ้นหลังการโกหกนั้นยังไม่เป็นที่ชัดเจน อาจเป็นเพราะการกระพริบตาบ่งบอกถึงความรู้สึกปลอดภัย เหมือนการปลดปล่อยพลังงานหลังจากความเครียดในการโกหก”

วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2551

การอ่านหนังสือจากขวาไปซ้าย หรือซ้ายไปขวา นั้นก็มีสาเหตุมาจากอะไร


การอ่านหนังสือจากขวาไปซ้าย หรือซ้ายไปขวา นั้นก็มีสาเหตุเกิดจากลักษณะการเขียนในแต่ละภาษานั่นเอง
อย่างในภาษาญี่ปุ่น ภาษาเกาหลี ซึ่งวิวัฒนาการมาจากภาษาจีนเหมือนกัน อ่านหนังสือจากขวาไปซ้าย หรือหลังไปหน้า เพราะการเขียนนั้นเขียนจากขวาไปซ้าย
ตามแบบดั้งเดิมแล้ว ภาษาจีน ญี่ปุ่นและเกาหลี เขียนในแนวตั้ง เริ่มจากบนลงล่าง และเรียงจากขวาไปซ้ายเป็นแถวตามแนวตั้งไปเรื่อยๆ โดยแถวใหม่แต่ละแถวนั้นจะอยู่ทางซ้ายของแถวเดิมเสมอ
อย่างไรก็ตาม ในสมัยปัจจุบัน เป็นเรื่องค่อนข้างปกติมากยิ่งขึ้นที่ภาษาเหล่านี้จะเขียนไปตามแนวนอน หรือจากซ้ายไปขวา โดยแต่ละแถวจะเริ่มจากบนลงล่าง ทั้งนี้ เพราะได้รับอิทธิพลมาจากภาษายุโรป โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นภาษาสากล และส่วนหนึ่งยังเป็นผลมาจากการพิมพ์ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ รวมถึงซอฟต์แวร์การพิมพ์งานต่างๆ ซึ่งไม่เข้ากับการเขียนจากขวาไปซ้ายของภาษาเหล่านี้
ภาษาจีน ญี่ปุ่น เกาหลี เมื่อเขียนตามแนวนอนแล้ว การอ่านแต่ละหน้าก็เหมือนกับเราอ่านหนึงสือภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ คือเริ่มจากซ้ายไปขวา ขณะที่หนังสือซึ่งเขียนตามแนวดิ่งจะถูกพิมพ์ออกมาในทางตรงกันข้าม คือเริ่มจากทางขวาไปซ้าย เวลาอ่านหนังสือพวกนี้จึงดูเหมือนว่าอ่านย้อนหลังมาหน้า หากเปรียบเทียบกับภาษาไทยซึ่งเขียนจากซ้ายไปขวา
ดังนั้นตัวอักษรจีนหรือญี่ปุ่นจึงมีลักษณะพิเศษ คือ สามารถเขียนได้ทั้งในแนวนอนและตั้ง การเขียนตามแนวนอนของภาษาจีนเรียกว่า เหิงไผ การเขียนในแนวดิ่งเรียกว่า ซู่ไผ ในภาษาญี่ปุ่น การเขียนตามแนวนอนเรียกว่า โยโกะกากิ ขณะในแนวดิ่งเรียกว่าตาเตกากิ
ตามประวัติศาสตร์แล้ว การเขียนในแนวดิ่งเป็นระบบมาตรฐาน ขณะที่การเขียนในแนวนอนจะถูกใช้ในพื้นที่ซึ่งจำกัด เช่นการเขียนเหนือประตูวัด และเราอาจจะพบการเขียนตามแนวนอน แต่จากขวาไปซ้ายยังมีในญี่ปุ่น จีน และเกาหลีด้วย เช่น ตามป้ายสัญลักษณ์ต่างๆ
ปิดท้ายด้วยเกร็ดเล็กน้อยว่า ขณะที่โดยทั่วไปแล้ว ภาษาตะวันตกจะมีรูปแบเขียนไปตามแนวนอน โดยเริ่มจากซ้ายไปขวา ในภาษาฮิบรูและอาหรับจะเขียนจากขวาไปซ้าย

10 ข้อที่ จะนำไปสู่การพูดภาษาอังกฤษอย่างมั่นใจ




คุณเคยรู้สึกว่าลิ้นมันแข็งไปหมด เมื่อคุณต้องพูดภาษาอังกฤษมั้ย? อยากรู้มั้ยว่าจะพูดได้อย่างมั่นใจได้อย่างไร? แม้แต่คนที่พูดภาษาอังกฤษเก่งๆ ก็ต้องเริ่มต้นจากศูนย์มาก่อน อ่านเกี่ยวกับความลับเล็กๆ น้อยๆ ที่นำพวกเขามาถึงจุดนี้ได้ในรายละเอียดดังต่อไปนี้
Putting the pieces togetherในการพูดภาษาอังกฤษให้ดีนั้น ต้องมีองค์ประกอบแยกย่อยหลายอย่าง : รู้ (และเลือกใช้) ศัพท์ที่เหมาะสม ใช้หลักไวยากรณ์และรูปแบบประโยคอย่างถูกต้อง ออกเสียงและเน้นเสียงได้ถูก คุณต้องใส่ใจฝึกในแต่ละจุดนี้ให้เต็มที่เพื่อจะเห็นผลในเร็ววัน
Two-way processการพูดคุยหมายถึงการสื่อสารกับคนอื่น ซึ่งรวมไปถึงการฟังไว้เช่นเดียวกับการพูด วิธีเช็คคู่สนทนาว่า เข้าใจที่คุณพูดหรือเปล่า โดยโดยการเน้นจุดสำคัญๆ หรือการเรียบเรียงประโยคใหม่ที่ใช้ศัพท์อื่น แต่ยังคงความหมายเดิมไว้ หรือใช้คำถามอย่างเช่น You know what I mean? หรือDon't you agree?
It's not just what you say...Non-verbal communication นั้นสำคัญมากในการที่จะพูดสื่อสารอย่างได้ผล แม้แต่เจ้าของภาษาเองก็ต้องใช้ ซึ่งอาจหมายถึงใช้มือประกอบท่าทางและภาษากาย เช่นเดียวกับการแสดงออกทางสีหน้าเพื่อเน้นหรืออธิบายในสิ่งที่พูด และพยายามอ่านภาษากายที่คู่สนทนากำลังใช้เป็นสื่อด้วย
Sing a song!เพลงเป็นหนทางที่ดีอีกอย่างหนึ่งที่สามารถช่วยให้คุณพัฒนาทักษะทางการพูด ฝึกพูดตามเนื้อเพลง และดึงเอาประโยคออกมาดัดแปลงใช้ให้เข้ากับสถานการณ์ หาlyrics (เนื้อเพลง)ที่ชอบจากอินเตอร์เน็ตและฝึกร้องตามดังๆ
Take a chance!คุณต้องมีทัศนะคติที่ดีต่อการเรียนภาษาอังกฤษ พยายามเสาะหาโอกาสที่จะใช้ภาษาอังกฤษอย่างเต็มที่ เช่นพบปะพูดคุยกับผู้คนในงานเลี้ยงสังสรรค์ เสนอความช่วยเหลือแก่ชาวต่างชาติที่กำลังหลงทาง หรือยกมือขึ้นเมื่ออาจารย์ถาม
Think in English every day.นี่เป็นวิธีที่ดีที่จะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษ อีกทั้งคุณยังสามารถทำได้ตลอดเวลาไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนหรือกำลังทำอะไรอยู่ คุณสามารถพูดกับตัวเองออกมาดังๆ ขณะที่กำลังทำอาหารอยู่ที่บ้าน ถ้าคุณกำลังอยู่บนรถไฟหรือรถบัส คุณสามารถอธิบายลักษณะของผู้คนรอบข้าง(อันนี้ต้องคิดในใจ อย่าพูดออกมาให้คนอื่นได้ยิน!) ก่อนนอนคุณควรทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมาในวันนั้นเป็นภาษาอังกฤษ
Listen to the sound of your own voice.ถึงแม้ว่าคุณอาจจะไม่ชอบได้ยินเสียงอัดเทปของตนเองแต่วิธีนี้ก็เป็นวิธีที่ได้ผลที่สุดในการเช็คดูว่าทักษะการพูดภาษาอังกฤษของคุณควรได้รับการปรับปรุงตรงไหน หรือคุณอาจขอคำแนะนำจากเจ้าของภาษาก็ได้
Keep a talking journal.อัดเทปเกี่ยวกับความคิดเห็นของคุณก่อนเข้านอน คุณสามารถเปิดฟังในตอนท้ายของปีเพื่อทบทวนเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นกับคุณในปีนั้นพร้อมเช็คความก้าวหน้าทางภาษาของคุณไปในขณะเดียวกัน
Take extra classes.ถ้าคุณยังรู้สึกว่าคุณต้องการฝึกเพิ่มเติมและพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนักเรียนคนอื่นๆ ทำไมไม่ลองสมัครลงเรียนภาษาดูล่ะ? โรงเรียนสอนภาษามีอยู่มากมายให้คุณเลือกแถวบ้านคุณหรือแม้แต่โรงเรียนออนไลน์ ไม่คาดฝันมาก่อนใช่มั้ยว่าคุณสามารถเรียนทักษะการพูดภาษาอังกฤษผ่านอินเตอร์เน็ตก็ได้? ลองเรียนในบทเรียนที่สอนสดๆ โดยครูเจ้าของภาษาที่ Englishtown ซึ่งกับที่นี่ คุณเพียงแค่ต่อหูฟังกับไมโครโฟนเข้ากับคอมพิวเตอร์คุณก็พูดกับคนทั่วโลกได้แล้ว !
Find English-speaking friends.ถ้าคุณตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะต้องพูดภาษาอังกฤษให้เก่งให้ได้ คุณต้องหาคนที่คุณจะพูดภาษาอังกฤษด้วยก่อน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นชาวต่างชาติเท่านั้น ภาษาอังกฤษนั้นปัจจุบันถูกใช้ในฐานะเป็นภาษาที่สองรองจากภาษาแม่มากกว่ากว่าแต่ก่อนมาก สิ่งที่สำคัญมากขึ้นตามลำดับคือคุณควรจะฟังภาษาอังกฤษที่มีสำเนียงต่างๆ ให้เข้าใจ

ประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส


ชาวฝรั่งเศสสืบเชื้อสายมาจากพวกโกลในศตวรรษที่ 1 จากนั้นตกมาอยู่ใต้การปกครองของพวกแฟรงก์ (ชื่อประเทศ France มาจากคำว่าแฟรงก์เช่นกัน) ปกครองด้วยระบอบกษัตริย์ที่มีบันทึกว่าเริ่มในศตวรรษที่ 5 เมื่อพระเจ้าชาร์เลอมาญตั้งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ใน ค.ศ. 843 ก็มีอาณาเขตครอบคลุมทั้งฝรั่งเศสและเยอรมนี
ราชสำนักฝรั่งเศสขึ้นสู่จุดสูงสุดในรัชสมัย
พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ซึ่งในยุคนี้ฝรั่งเศสได้เป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในยุโรป และมีอำนาจทางการเมือง เศรษฐกิจศิลปะ และ วัฒนธรรม ต่อยุโรปเป็นอย่างมาก

ฝรั่งเศสปกครองด้วยระบอบกษัตริย์จนถึงการปฏิวัติฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1792 จึงเปลี่ยนมาใช้ระบอบสาธารณรัฐ หลังจากนั้นนโปเลียน โบนาปาร์ตได้ตั้งตัวเองเป็นจักรพรรดิและรุกรานประเทศอื่น ๆ ในทวีปยุโรป เมื่อนโปเลียนพ่ายแพ้ ฝรั่งเศสจึงกลับมาใช้ระบบสาธารณรัฐอีกครั้ง เรียกว่ายุคสาธารณรัฐที่สอง แต่ก็อยู่ได้ไม่นานเพราะหลุยส์ นโปเลียน หลานลุงของนโปเลียนได้ยึดประเทศและตั้งจักรวรรดิที่สองอีกครั้ง
ตั้งแต่ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 ถึง ทศวรรษที่ 60 ซึ่งเป็น
ยุคล่าอาณานิคม จักรวรรดิฝรั่งเศสมีพื้นที่ใหญ่มาก โดยช่วงที่ใหญ่ที่สุดคือช่วงยุคทศวรรษที่ 20 ถึง 30 ซึ่งมีกว่า 12,898,000 ตารางกิโลเมตร และเป็นจักรวรรดิอันดับสองของโลก รองมาจากจักรวรรดิอังกฤษ
ฝรั่งเศสได้รับความบอบช้ำอย่างหนักจากสงครามโลกทั้งสองครั้ง ปัจจุบันใช้การปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบที่มีทั้งประธานาธิบดี และนายกรัฐมนตรี (เรียกยุคสาธารณรัฐที่ห้า) ทศวรรษที่ผ่านมาฝรั่งเศสและเยอรมนีเป็นผู้นำของการรวมตัวตั้ง
ประชาคมยุโรป ซึ่งพัฒนามาเป็นสหภาพยุโรปในปัจจุบัน
ฝรั่งเศสยังเป็น 1 ใน 5 สมาชิกถาวรของ
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และเป็นประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง

วันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ตุ๊กตาฝูวา สัญลักษณ์ปักกิ่ง โอลิมปิก 2008

ตัวแรก เป้ยเป้ย (Beibei) คือ สัญลักษณ์ของปลา ซึ่งมีสีฟ้าสดใสของท้องทะเล หรือสัญลักษณ์ของธาตุน้ำ อันเป็นที่มาแห่งความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์นั่นเอง ทำหน้าที่ส่งมอบความเจริญรุ่งเรือง ส่วนหัวของหนูน้อยเป้ยเป้ย ประดับด้วยลวดลายปลา ที่นิยมในยุคเครื่องมือหินใหม่ของจีน อุปนิสัยเป้ยเป้ยบริสุทธิ์อ่อนโยน เป็นยอดฝีมือแห่งกีฬาทางน้ำ เป็นตัวแทนห่วงสีฟ้าในสัญลักษณ์โอลิมปิกสากล

จิงจิง (Jingjing) เป็นหมีแพนด้า หน้าตายิ้มแย้มไร้เดียงสา ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็จะนำความสุขสดใสไปมอบให้ทุกคน เปรียบเหมือนความสมานฉันท์อันดีระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ส่วนหัวของจิงจิงประดับด้วยลวดลายกลีบดอกบัวตามลักษณะเครื่องเคลือบสมัยซ้อง หนูน้อยจิงจิงไร้เดียงสามองโลกในแง่ดี มีพละกำลังเต็มเปี่ยม เป็นตัวแทนห่วงสีดำในสัญลักษณ์โอลิมปิกสากล

ฮวนฮวน (Huanhuan) หรือ หนูน้อยลูกไฟ เป็นพี่ใหญ่ในบรรดาเด็กน้อยนำโชคทั้ง 5 และเป็นสัญลักษณ์ของไฟโอลิมปิก ฮวนฮวนเป็นตัวแทนของอารมณ์ที่ฮึกเหิมของนักกีฬา และจะส่งมอบจิตวิญญาณของกีฬาโอลิมปิกที่สนุกสนานและเข้มแข็งไปยังทุกสถานที่ที่ไปถึง



ส่วน อิ๋งอิ๋ง (Yingying) คือ ละมั่งทิเบต สัตว์สงวนของที่ราบสูงชิงไห่-ทิเบต มีความเฉลียวฉลาด คล่องแคล่วว่องไว มาจากพื้นที่ภาคตะวันตกที่กว้างสุดลูกหูลูกตาของจีน อิ๋งอิ๋งเป็นตัวแทนส่งมอบความสุขสมบูรณ์ที่แข็งแรงให้แก่โลก เป็นการแทนความหมายของโอลิมปิกสีเขียว (หรือโอลิมปิกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม)



หนูน้อยคนสุดท้าย หนีหนี่ (Nini) คือ เจ้านกนางแอ่นน้อย สีเขียวสดใส เครื่องประดับบนหัวของหนีหนี่ คือ นกนางแอ่นปีกทอง มีความหมายถึงผืนฟ้าอันไร้ขอบเขต นิสัยของหนีหนี่ ไร้เดียงสา ไม่เป็นพิษเป็นภัย และหนีหนี่จะเป็นตัวแทนความสดใส เบิกบานที่จะส่องประกายบนสนามแข่งขันยิมนาสติก เป็นตัวแทนห่วงสีเขียวในสัญลักษณ์โอลิมปิกสากล
ทั้งนี้ หากนำชื่อของมาสคอตทั้ง 5 มาเรียงกัน ก็จะได้ประโยคว่า เป้ยจิง ฮวนอิ๋ง หนี่ ซึ่งแปลว่า "ปักกิ่งยินดีต้อนรับคุณ" นั่นเอง แต่ไม่ใช่แค่นั้น เพราะเมื่อสังเกตดีๆ ก็จะเห็นว่าสีของตุ๊กตาทั้ง 5 นี้สอดคล้องกับธาตุทั้ง 5 ตามหลักฮวงจุ้ยอีกด้วย เริ่มตั้งแต่ สีฟ้าแห่งธาตุน้ำของเป้ยเป้ย สีขาวแห่งธาตุโลหะของจิงจิง สีแดงธาตุไฟของฮวนฮวน สีเหลืองธาตุดินของอิ๋งอิ๋ง และสีเขียวธาตุไม้ของหนีหนี่

























































วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2551

รวมภาพไฟโชติช่วงเปิด "ปักกิ่งเกมส์" สุดอลังการ

เจ้าภาพมาเองจ้า
น่ารักจังเนอะ


มีความสุขจัง


กล้าจังนะ



ประเทศไทยสู้!สู้!

ไฟโชติช่วงเปิด "ปักกิ่งเกมส์" สุดอลังการ




























ความหมายของสีประจำวัน

ที่มาว่าทำไมวันจันทร์ต้องสีเหลือง อังคารสีชมพู พุธสีเขียว พฤหัสบดีสีส้ม ศุกร์สีฟ้า เสาร์สีม่วง จากการสืบค้นดูแล้วไม่ปรากฏว่าใครเป็นผู้กำหนดสีประจำวันเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม เรามีคำอธิบายเกี่ยวกับสีประจำวันในแต่ละวันว่ามีความหมายอย่างไรบ้างมาฝาก ดังนี้
วันอาทิตย์- สีแดง สีแดงเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง สุขภาพ และแรงปรารถนา เชื่อว่าสีแดงจะมีพลังอำนาจสูงสุดเมื่ออยู่คู่กับคนที่เกิดวันอาทิตย์ สีแดง อาจหมายถึงโชคดีสำหรับคนที่เริ่มทำธุรกิจใหม่ คู่แต่งงานและความอายุยืน ในด้านสุขภาพสีแดงยังช่วยในการไหลเวียนโลหิตเสริมสร้างความสัมพันธ์ให้ยืนยาวนานอีกด้วย
วันจันทร์-สีเหลือง สีเหลืองมักถูกอ้างถึงความเจิดจ้า ความสว่างไสว ความเชื่อใจ พระอาทิตย์รังสีสีเหลืองที่ให้ชีวิตแก่สิ่งมีชีวิต สีเหลืองเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตใหม่และชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยความสว่างไสว สีเหลืองยังช่วยชำระจิตใจที่ยังช่วยให้ตัดสินใจได้ดีที่สุดสำหรับเรื่องธุรกิจและชีวิตที่นำไปสู่ความอุดมสมบูรณ์
วันอังคาร-สีชมพู สีชมพูทำให้แรงปรารถนาของสีแดงอ่อนโยนลงกลายเป็นสีแดงอันอ่อนละมุน สีชมพูช่วยหัวใจในตัดสินใจได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนรักเพราะสีชมพูหมายถึงความรักที่คงทนและไร้เงื่อนไข รวมถึงมิตรภาพ ในเรื่องสุขภาพสีชมพูสร้างความสมดุลระหว่างสุขภาพกายและใจ
วันพุธ-สีเขียว สีเขียวเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองและสะท้อนพลังอันมีชีวิตชีวาของชีวิต ทำให้สิ่งมีชีวิตเจริญเติบโต เชื่อกันว่าสีเขียวมีคุณลักษณะอันเป็นประโยชน์หลายประการ ยกตัวอย่างเช่น ช่วยให้ตาผ่อนคลาย เพิ่มพูนความฉลาดและกล้าหาญและช่วยป้องกันจากโรคร้าย และนำพาสู่ชีวิตอมตะ สีเขียวจะมีพลังสูงสุดเมื่อคู่กับคนที่เกิดวันพุธ
วันพฤหัสบดี-สีส้ม สีส้มเป็นสีที่ดีที่สุดสำหรับคนที่เกิดวันพฤหัสบดี สีส้มแสดงถึงความหวังและความอิ่มเอิบ ช่วยเปลี่ยนโลกให้กลายเป็นสถานที่อันชวนหลงใหลสำหรับการอาศัยอยู่ ช่วยส่งเสริมและนำมาซึ่งความหวังแก่ผู้คนที่โชคร้ายในชีวิต นอกจากนั้นยังเชื่อว่าสีส้มช่วยเผยความรู้สึกที่เก็บไว้ซึ่งเป็นการดีเมื่อได้แสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา ในด้านสุขภาพ สีเขียวช่วยป้องกันการติดต่อจากเชื้อโรคและทำให้สุขภาพดี
วันศุกร์-สีฟ้า สีฟ้าแสดงถึงสันติภาพ ความสงบและความฝัน ช่วยให้การแต่งงานราบรื่นและยืนยาว ซึ่งจะทรงพลังที่สุดเมื่ออยู่กับคนที่เกิดวันศุกร์ สำหรับคนที่ทำธุรกิจ สีฟ้าช่วยยุติการทะเลาะเบาะแว้ง สร้างหุ้นส่วนใหม่และช่วยให้มีความกล้าในการทำสิ่งที่ยากลำบาก ช่วยรักษาอาการขี้เกียจและเสริมสร้างพลังทางใจด้วย
วันเสาร์-สีม่วง สีม่วงเป็นการผสมผสานระหว่างแรงปรารถนาของสีแดงและความสงบเงียบของสีฟ้า สีม่วงเป็นที่รู้จักสำหรับความลึกลับ ความรุ่งโรจน์ สีม่วงเป็นสีที่เป็นประโยชน์สำหรับคนที่เคร่งเครียดและบ้างานเพราะช่วยในการควบคุมอารมณ์ ผ่อนคลายจิตใจและปลดปล่อยจากภาระผูกพันเนื่องจากการวิตกกับชีวิต จากหลายความเชื่อ สีนี้เหมาะสำหรับคนที่เกิดวันเสาร์

วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ยลบรรยากาศปักกิ่งก่อนโอลิมปิกเปิดฉาก

งานนี้ท่านประธานเมา เจ๋อตุงหลบอยู่หลังฉากสักระยะ
นักท่องเที่ยวคนหนึ่งกำลังจดจ้องเก็บภาพสวยๆ ที่เทียนอันเหมิน

คู่รักเดินกลางร่มภายในสวนสาธารณะรื่อถัน หนึ่งในพื้นที่ประท้วงที่ทางการจัดเตรียมไว้สำหรับผู้ประท้วง






จีนเข้าโค้งสุดท้ายสำหรับการจัดแต่งบรรยากาศในเมืองหลวง ก่อนมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติจะเปิดฉากในอีก 2วันข้างหน้า ซึ่งขณะนี้ชาวปักกิ่งต่างตื่นตากับภาพบรรยากาศใหม่ๆ ที่ผุดขึ้นวันต่อวัน ไม่ว่าจะเป็น สวนดอกไม้หลากสีที่บานสะพรั่ง สีแดงเพลิงจากโคมไฟก็ดี หรือจะเป็นสีสันของป้ายต้อนรับโอลิมปิกภายใต้คำขวัญ "One World One Dream" ก็ดี เรียกได้ว่าความสวยงาม อลังการเช่นนี้ทำให้ผู้มาเยือนลืมภาพเมืองหลวงที่ก่อนหน้านี้คลุ้งไปด้วยหมอกควันไปชั่วขณะ อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังบรรยากาศที่สวยราวเนรมิตนี้ ยังมีกลุ่มคนงานที่ทำงานกันอย่างขะมักขเม้น







บุชทำเข้มสวดสิทธิมนุษยชนมังกร ซาร์โกซีกลับลำบินเกี่ยวก้อยจีน

ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุชกล่าวสุนทรพจน์ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตต์ กรุงเทพฯ วันที่ 17 ส.ค. และได้หยิบยกเรื่องสิทธิมนุษยชนจีนขึ้นพูดอย่างน่าวิตก ก่อนที่บุชจะเดินทางไปยังปักกิ่งไม่กี่ชั่วโมง เพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดโอลิมปิก เกมส์-เอเอฟพี
เอเจนซี - ก่อนขึ้นเครื่องไปร่วมพิธีเปิดโอลิมปิก เกมส์ที่กรุงปักกิ่ง ไม่กี่ชั่วโมง ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ก็ออกโรงแถลง “แสดงความวิตกอย่างลึกซึ้ง” ต่อการปรับปรุงสิทธิมนุษยชนจีน ด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูดุดันที่สุดในการพูดประเด็นนี้ต่อสาธารณะ ขณะที่สายตาประชาคมโลกกำลังจับจ้องไปที่นครปักกิ่ง ซึ่งกำลังจัดงานใหญ่พิธีเปิดโอลิมปิก เกมส์ ศุกร์ที่ 8 สิงหาคม 2008 ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างเยือนกรุงเทพฯ ได้แถลงด้วยน้ำเสียงท่าที “ต่อต้านอย่างหนักแน่น” ต่อการจับกุมกลุ่มที่มีความเห็นไม่ลงรอยกับรัฐบาลจีน กลุ่มรณรงค์ด้านสิทธิต่างๆ ไปถึงกลุ่มเคลื่อนไหวสิทธิทางศาสนา “สหรัฐอเมริกา เชื่อว่า ประชาชนจีนมีสิทธิพื้นฐานเสรีภาพ ซึ่งเป็นสิทธิโดยธรรมชาติของมวลมนุษยชาติ อเมริกาต่อต้านอย่างเหนียวแน่นต่อการจับกุมกลุ่มที่มีความเห็นไม่ลงรอยทางการเมือง กลุ่มรณรงค์สิทธิต่างๆ กลุ่มผู้นำศาสนา เราพูดเพื่อเสรีภาพสื่อ เสรีภาพการชุมนุม และสิทธิแรงงาน มิใช่เพื่อที่จะสร้างความโกรธเคืองเป็นปฏิปักษ์ต่อจีน แต่เพราะเชื่อว่าการที่ชาวจีนได้มีเสริภาพมากขึ้นนั้น เป็นหนทางเดียวในการพัฒนาสิทธิมนุษยชนของจีนอย่างเต็มที่” การที่ผู้นำชาติคู่ปรับหมายเลขหนึ่ง ออกโรงพูดประเด็นที่จีนเกลียดกลัวที่สุด ในวันสุกดิบก่อนเปิดม่านโอลิมปิกวันพฤหัสฯ (7 ส.ค.) เช่นนี้ ยิ่งเพิ่มความไม่พอใจแก่ผู้นำคอมมิวนิสต์ ที่กำลังถูกชาวโลกรุมอัดเรื่องไม่บรรลุสัญญาการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก เกมส์ ในกรณีละเมิดสิทธิมนุษยชน ขณะเดียวกัน บุช ก็ถูกกลุ่มรณรงค์สิทธิวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ออกแรงเต็มที่ในการหยุดยั้งรัฐบาลจีน ปราบปรามกลุ่มสิทธิต่างๆ ก่อนโอลิมปิกที่ยิ่งทวีความดุเดือด พร้อมกันนี้ ประมุขแดนอินทรีก็ได้หยอดยาหอม กล่าวชมเชยความก้าวหน้าเศรษฐกิจจีน และการแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกับสหรัฐฯ ทั้งได้ย้ำอีกครั้ง รับรอง “นโยบายจีนเดียว” ของวอชิงตัน และเชื่อว่า จะไม่มีการกระทำการใดๆ แต่ฝ่ายเดียวในการเปลี่ยนแปลงสถานภาพเดิมของไต้หวัน ซึ่งมีสถานภาพเป็นเกาะที่ประกาศการปกครองตัวเอง ขณะที่ปักกิ่งถือดินแดนนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่มิอาจแบ่งแยกของจีน บุช กำลังเหินฟ้าสู่กรุงปักกิ่งเข้าร่วมพิธีเปิดโอลิมปิก เกมส์ 2008 ในวันศุกร์นี้ และเผชิญหน้ากับบททดสอบการรักษาดุลยภาพในการสัมพันธ์กับจีน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บอกว่า เขาไปปักกิ่งในฐานะแฟนกีฬาคนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่อยู่ในแดนมังกร 4 วันนี้ เขาก็จะไปโบสถ์ด้วย และจะมีการแถลงเรื่องเสรีภาพศาสนา ซึ่งเป็นแผลใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนจีนเช่นกัน จากนั้นก็พูดคุยกับประธานาธิบดีหู จิ่น เทา กลุ่มที่ปรึกษาเผยว่าบุชจะไม่ทำอะไรที่หักหน้าเจ้าภาพ ซึ่งถือโอลิมปิก เกมส์ครั้งนี้ เป็นโอกาสแสดงโฉมหน้าที่ทันสมัย ความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจจีนบนเวทีโลก

น้ำตกที่สูงที่สุดในโลก


*น้ำตกแองเจลเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในโลก*
น้ำตกที่สูงที่สุดในโลก คือ น้ำตกแองเจล (Angel Falls) อยู่ในทวีปอเมริกาใต้ บริเวณประเทศเวเนซูเอลา มีความสูงประมาณ 3,212 ฟุต ชาวพื้นเมืองในVenezuela เริ่มรู้จัก Salto Angel ตั้งแต่ Jimmie Angel นักบินสหรัฐบินผ่านเหนือพื้นที่นี้ในปี 1935 เมื่อเขาลงสู่พื้นดินบนยอดของภูเขาเดี่ยวที่ค้นหาทองคำ เครื่องบินของเขาติดในป่ารกที่เป็นหนองน้ำบนยอดเขา และ เขาประกาศน้ำตกที่สวยงามตระการตาอันน่าประทับใจที่โถมดิ่งลงมาสู่พื้นหลายพันฟุต เขาต้องทรมานกับการเดินทางหลายวันด้วยเท้าประมาณ 11 ไมล์ เพื่อกลับตัวเมืองเครื่องบินของเขายังคงติดอยู่บนเขาเป็นอนุสาวรีย์การค้นพบของเขา ในไม่ช้าทั่วโลกที่ต้องการรู้เกี่ยวกับน้ำตก ก็มารู้จัก Angel Falls หลังจากการค้นพบของนักบิน Angel Falls ตกจากยอดที่ราบสูงที่ทางขึ้นลาดชัน หรือที่ชาวพื้นเมืองเรียกกันว่า Tepuyi ชื่อ Auyantepui ที่ราบสูงน้ำตกแองเจิล เป็นหนึ่งจากหลายร้อยที่ราบสูงที่กระจัดกระจายตาม Guiana Highlands ทาง ตะวันออกเฉียงใต้ของ Venezuela เหมือนยักษ์ขี้เซา ลักษณะของที่ราบสูง (Tepuys) เป็นที่ราบขนาดใหญ่ สูงทะยานไปสู่ท้องฟ้า ประกอบด้วยที่ราบบนยอด และด้านข้างตั้งตรงมักถูกเรียกว่า table mountains (อธิบายโดยละเอียดด้วยรูปร่าง) Tepuys มีรูปแบบเป็นหินทรายที่มีอายุพันล้านปี ด้านข้างที่ตั้งตรงยังคงถูกกัดเซาะโดยการกระทำของน้ำจากฝนตกอย่างหนัก ที่ Guiana Highlands

วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2551

สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่




รูปปั้นพระเยซูคริสต์ นครริโอเดอจาเนโร บราซิล
รูปปั้นพระเยซูคริสต์นี้ตั้งอยู่ที่ยอดเขากอร์โกวาโด มีความสูงราว 38 เมตร ได้รับการออกแบบโดยไฮตอร์ ดาซิลวา คอสตา ชาวบราซิล และสร้างโดยพอล ลันดอฟสกี้ ประติมากรชาวฝรั่งเศสเชื้อสายโปแลนด์ ใช้เวลาในการสร้าง 5 ปี โดยเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 ตุลาคม ปี พ.ศ.2474 รูปปั้นพระเยซูคริสต์นี้ถือเป็นอนุสาวรีย์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของนครริโอเดอจาเนโร และเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาวบราซิล มีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ราว 1,800,000 รายต่อปี


สนามกีฬาโคลอสเซียม กรุงโรม ประเทศอิตาลี
สิ่งก่อสร้างรูปทรงโค้งเป็นวงกลม ซึ่งตั้งอยู่ที่ศูนย์กลางของกรุงโรมแห่งนี้ สร้างขึ้นเพื่อเชิดชูเหล่านักรบโรมันและเป็นอนุสรณ์ที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโรมัน สนามกีฬาแห่งนี้สูง 48 เมตร ยาว 188 เมตร และกว้าง 156 เมตร แนวคิดในการออกแบบโคลอสเซียมนี้ยังคงมีความสำคัญมาจนถึงทุกวันนี้ ดังจะเห็นได้จากการออกแบบสนามกีฬาแทบทุกแห่งในโลกนับตั้งแต่นั้นมาต้องปฏิบัติตามแม่แบบดั้งเดิมของโคลอสเซียมอย่างปฏิเสธไม่ได้ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันนี้สิ่งที่ได้รับรู้จากภาพยนตร์และหนังสือบันทึกทางประวัติศาสตร์จะแสดงให้เห็นว่าสนามกีฬาแห่งนี้มีแต่การต่อสู้และการแข่งขันที่โหดร้ายต่างๆ นานา เพื่อความสุขของผู้ชมเท่านั้นก็ตาม

แฟชั่นโหด !! ปลาเป็นๆอัดพลาสติกห้อยคอ


เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม หนังสือพิมพ์เวสต์ไชน่าซิตี้เดลี่ ประเทศจีน รายงานว่า เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทางทะเล มณฑลเสฉวน ประณามกลุ่มพ่อค้าในมหานครเฉิงตู ที่จับปลาเป็นๆ ไปแพ็กไว้ในถุงพลาสติกขนาดเล็ก และนำสายสร้อยมาห้อยเพื่อประดับกระเป๋าถือได้ ล่าสุดกลายเป็นแฟชั่นมาแรง มีกลุ่มเด็กวัยรุ่นเฉิงตูแห่ซื้อไปสวมใส่แพร่หลาย อย่างไรก็ตามฝ่ายพ่อค้าอ้างว่า ถุงพลาสติกขนาดเล็กดังกล่าวถูกปิดผนึก แต่ปลาข้างในมีชีวิตอยู่ได้ถึง 3 เดือน เพราะใส่อาหารและก้อนออกซิเจนเอาไว้ด้วย เมื่อใกล้ครบ 3 เดือน ลูกค้าสามารถแกะถุงออกและนำปลาไปปล่อยตามแหล่งน้ำ หรือจะเก็บไว้เลี้ยงต่อไปก็ได้ เวสต์ไชน่าซิตี้เดลี่รายงานด้วยว่า วัยรุ่นสาวชาวจีนนิยมซื้อสินค้าดังกล่าวไปทำเป็นเครื่องประดับ โดยร้อยเข้ากับสายสร้อยคล้องห้อยคอ และนำไปห้อยประดับกระเป๋าถือ สินค้า 1 ชิ้นมีราคาเพียงไม่กี่สิบบาท ขณะที่นักชีววิทยาประจำศูนย์วิจัยทางทะเล มณฑลเสฉวน ออกมาประณามผู้ผลิตว่าทารุณกรรมสัตว์อย่างรุนแรง และเรียกร้องให้ทางการสั่งแบนห้ามขายเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์เทเลกราฟ ประเทศอังกฤษ รายงานข่าวสินค้าพิสดารชนิดเดียวกันจากประเทศจีน ว่า มีพ่อค้าในนครชิงเต่านำปลาทองเป็นๆ ไปแพ็กขายทำเป็นพวงกุญแจพลาสติกเช่นกัน โดยบนถุงพลาสติกพิมพ์ลวดลายตัวมาสคอต "ฮวนฮวน" 1 ใน 5 สัญลักษณ์มหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2008 เอาไว้ด้วย เพื่อขายเป็นของที่ระลึกต้อนรับมหกรรมโอลิมปิก ซึ่งกรุงปักกิ่ง รวมถึงนครชิงเต่ารับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในเดือนส.ค. ทำให้โฆษกองค์กรคุ้มครองสัตว์ "อาร์เอสพีซีเอ" ของอังกฤษเปิดแถลงข่าวประณามและขอให้ทางการจีนสั่งเก็บสินค้าให้หมด เพราะปลาที่อยู่ในถุงจะขาดอากาศตายภายในไม่กี่ชั่วโมง นับเป็นการทำการค้าที่ปราศจากความเมตตา ไม่เคารพสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆ บนโลกอย่างน่าตกใจ