วันพุธที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2551

'ไบลธ์' เจ้าของรอยยิ้มปริศนาตุ๊กตาที่คนทั้งโลกหลงรัก


เคยมีผู้เปรียบ “ไบลธ์” (Blythe) ว่ามีรอยยิ้มลึกลับดังรอยยิ้มของโมนาลิซา

จุด กำเนิดและเส้นทางชีวิตของไบลธ์กลายเป็นเรื่องเล่าอันน่าภาคภูมิใจ ที่ถูกบอกเล่าต่อๆ กันมาปากต่อปาก จากคนที่ชอบไบลธ์สู่คนที่ไม่รู้จักไบลธ์ และเรื่องราวเหล่านี้จะถูกบอกเล่าต่อไปอีกนาน จากตุ๊กตาที่ไม่มีใครเห็นคุณค่า กลายเป็นตุ๊กตาที่คนทั่วโลกหลงรัก และยกย่องว่าเป็นยิ่งกว่า “ตุ๊กตา”

ฮัลโหล!ไบลธ์

บริษัท เคนเนอร์ ในสหรัฐผลิตไบลธ์ ในปี 2515 หรือราว 36 ปีก่อน และถูกเปิดตัวผ่านโฆษณาโทรทัศน์ ตุ๊กตาเด็กผู้หญิงหุ่นใกล้เคียงบาร์บี้ แม้หน้าอกจะเล็กกว่า แต่ส่วนหัวนั้นใหญ่โตกว่าบาร์บี้หลายเท่า ข้างในบรรจุกลไกลูกกะตาให้เปลี่ยนสีตาได้สี่สี แถมเพิ่มเทคนิคด้วยการให้ตุ๊กตามองซ้าย มองขวา มองตรงได้ด้วยการกระตุกเชือก

วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2551

คุณรู้หรือไม่...........

ในบางตึกที่ฮ่องกงจะไม่มีชั้นที่ 4 เนื่องจากชาวจีนถือว่าเลข 4เป็นเลขที่ไม่นำโชค เลขที่ถือว่านำโชคคือ 6 8 และ9

นิวซีแลนด์ถูกรู้จักในนาม Aotearoa ซึ่งหมายถึงแผ่นดินแห่งเมฆหมอกสีขาวที่ทอดตัวยาว ในภาษาชาวเมารี

ในปี 1881รัฐหลุยเซียนาเป็นรัฐแรกที่ประกาศใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการ

จำนวนน้ำที่ใช้กว่าล้านอ่างในแคนาดาไหลลงที่น้ำตกไนแองการาทุกนาที

หอไอเฟลถูกสร้างขึ้นสำหรับงานWorld's Fair ในปี 1889ตอนนั้นคนฝรั่งเศสยังคิดอยู่ว่าอนุเสาวรีย์เหล็กอันนี้เป็นผลงานที่ไม่ค่อยเข้าตาประชาชนเลย

ประเทศออสเตรเลียใหญ่เป็น 32 เท่าของประเทศอังกฤษ

ปราสาท Neuschwansteinซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยกษัตริย์ Ludwig II ระหว่างปี 1869 ถึงปี 1886ได้กลายเป็นต้นแบบของปราสาทซินเดอเรลล่าใน DisneyWorld

ในประเทศอังกฤษมีการใช้ภาษาที่แตกต่างกันถึง 200ภาษา

แอฟริกาใต้ใต้ถูกเรียกว่าเป็นประเทศ The Big Fiveที่ประกอบไปด้วยสัตว์ 5 ชนิด คือ สิงโต ช้าง เสือดาว แรดและกระบือ

วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2551

สีประจำ.......คริสต์มาส

เพื่อนๆ คงจะยังไม่ทราบว่าสีประจำวันคริสต์มาสมีอะไรบ้าง จึงสรรหามาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันนะ


สีแดง : เป็นสีของผลฮอลลี่ หรือซานตาครอส เป็นสีของเดือนธันวาคม ที่แสดงถึงความตื่นเต้น และหากเป็นสัญลักษณ์ตามศาสนา สีแดงจะหมายถึง ไฟ, เลือด และความโอบอ้อมอารี
สีเขียว : เป็นสีของต้นไม้ สัญลักษณ์ของธรรมชาตื หมายถึงความอ่อนเยาว์และความหวังที่จะมีชีวิตเป็นนิรันดร์ เปรียบได้กับว่าเทศกาลคริสต์มาสคือเทศกาลแห่งความหวัง
สีขาว : เป็นสีของหิมะ และเป็นสัญลักษณ์ทางศาสนา คือแสงสว่าง ความบริสุทธิ์ ความสุข และความรุ่งเรือง สีขาวนี้จะปรากฎบนเสื้อคลุมนางฟ้า, เคราและชายเสื้อของซานตาครอส
สีทอง : เป็นสีของเทียนและดวงดาว เป็นสัญลักษณ์ของแสงอาทิตย์และความสว่างไสว

คำว่าสวัสดีปีใหม่ 5 ประเทศ





ฝรั่งเศส

Bonne année

บอน นันเน่

จีน

Xin nian yu kuai / Xin Nian Kuai Le

ซิน เหนียน หยู ไคว่/ซิน เหนียน ไคว่ เลอ


ญี่ปุ่น

Akemashite Omedetou Gozaimasu

อะเคมาชิเตะ โอเมเดโตโกไซมัส


เกาหลี

Sehe Bokmanee Bateuseyo

เซ เฮ บก มา นี พา ดือ เซ โย



เวียดนาม

Chuc mung nam moi

จุ๊ก หมึ่ง นัม เหมย

รูปสลักซานตาคลอสน้ำแข็งขนาดใหญ่



เพื่อนๆคงจะไม่เคยเห็นรูปซานตาครอสที่แกะสลักด้วยน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ตอนนี้ได้มีแล้วที่เมืองจีนคะ




รอยเตอร์ - เมืองฮาร์บิน เมืองเอกของมณฑลเฮยหลงเจียง ทางตอนเหนือของจีนกำลังเร่งสร้างรูปปั้นซานตา คลอสน้ำแข็ง เพื่อให้เป็นรูปปั้นน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
เมืองฮาร์บิน เมืองเอกของมณฑลเฮยหลงเจียง ซึ่งอยู่ติดขอบชายแดนที่ราบไซบีเรีย สถานที่ซึ่งมีอากาศหนาวเย็นมากที่สุดในประเทศจีน โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวที่อุณหภูมิอาจติดลบ 35 องศาเซลเซียส
สำหรับเทศกาลน้ำแข็งที่เมืองฮาร์บินจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และในปีนี้ทางเจ้าหน้าที่ผู้จัดงานระบุว่า จะจัดแสดงรูปสลักซานตา คลอส ขนาดใหญ่ความสูง 24 เมตร ยาว 160 เมตร แต่เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงจากผลกระทบภาวะโลกร้อน ทำให้งานของทีมแกะสลักเป็นไปอย่างลำบาก เนื่องจากหิมะละลายเร็วกว่าปีที่ผ่านมา

“ด้วยขนาดของรูปปั้นที่ต้องสร้างให้ใหญ่กว่าและสูงกว่าของปีที่แล้ว ดังนั้นมันจึงเป็นงานที่ค่อนข้างยากสำหรับเรา นอกจากนี้อุณหภูมิที่เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว ทำให้น้ำแข็งเปราะบางและละลายตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งนั่นเป็นงานที่ท้าทายมากๆ” ทีมสร้างรูปปั้นน้ำแข็งกล่าว

วันพุธที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2551

คำอวยพรวันคริสต์มาส ภาษาอังกฤษ [English]



Christmas Greetings Wishing you a prosperous New Year! Christmas Greetings
ขออวยพรให้ท่านจงเจริญรุ่งเรืองเฟื่องฟูตลอดปีใหม่

Merry Christmas and Happy New Year
ขออวยพรให้ท่านได้พบแต่สิ่งที่ดีๆ

Season’s Greetings– May love and laughter fill your life at Christmas and throughout the New Year.
เทศกาลแห่งการอวยพร ขออวยพรให้ความรัก และเสียงหัวเราะเติมเต็มชีวิตของคุณ ในวันคริสต์มาสตลอดไปถึงวันปีใหม่

My wishes for Christmas: 1. Joy to the world 2. Good will toward men 3. Pizza on Earth!
สิ่งที่ฉันปรารถนาในวันคริสต์มาสนี้ 1. คนทั่วโลกมีความสุข 2. ผู้คนอยู่กันอย่างสันติ 3.มีพิชซ่าให้กิน (โจ๊ก)

Christmas Cold weather and warm feelings
คริสต์มาสอากาศที่เหน็บหนาวและความรู้ที่อบอุ่น


ซานต้ามาแล้ว หรือ Santa Claus Is Coming to Town เป็นหนึ่งในเพลงยอดนิยมของเทศกาลคริสต์มาส ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ชอบกันมากว่า 70 ปีแล้ว เพราะเป็นเพลงที่แต่งขึ้นตั้งแต่ ค.ศ.1934 (พ.ศ.2477) จากที่พวกที่ไหนกำลังเปิดเพลงคริสต์มาส ลองฟังๆ ไปสักประเดี๋ยวก็ต้องได้ยินเพลงนี้ ฝรั่งอเมริกันร้องกันมาตั้งแต่สมัยคุณทวดจนถึงคุณเหลน และไม่มีท่าว่าจะเบื่อง่ายๆเป็นเพลงน่ารักสำหรับเด็กๆ เนื้อเพลงบอกว่า… คอยดูให้ดีนะ อย่าร้องไห้ อย่าหน้างอ จะบอกให้ว่าทำไม ก็แซนตาคลอสกำลังจะมาเมืองเราน่ะซิ

You"d better watch out/Better not cry/Better not pout/I"m telling you why/Santa Claus is coming to town.

ซานต้ากำลังทำรายการ ตรวจทานถ้วนถี่ คราวนี้ซานต้าจะรู้ว่าเด็กคนไหนเกเร คนไหนเป็นเด็กดี

He"s making a list, checking it twice/Gonna find out who"s naughty and nice/Santa Claus is coming to town.

แน่นอนว่า ใครเป็นเด็กดีก็ย่อมจะได้ของขวัญจากซานตาคลอส ซานตาคลอสนั้นคือนักบุญนิโคลัสแห่งไมรา (Saint Nicholas of Myra)

The History of Christmas




In the Western world, the birthday of Jesus Christ has been celebrated on December 25th since AD 354, replacing an earlier date of January 6th. The Christians had by then appropriated many pagan festivals and traditions of the season, that were practiced in many parts of the Middle East and Europe, as a means of stamping them out.


There were mid-winter festivals in ancient Babylon and Egypt, and Germanic fertility festivals also took place at this time. The birth of the ancient sun-god Attis in Phrygia was celebrated on December 25th, as was the birth of the Persian sun-god, Mithras. The Romans celebrated Saturnalia, a festival dedicated to Saturn, the god of peace and plenty, that ran from the 17th to 24th of December. Public gathering places were decorated with flowers, gifts and candles were exchanged and the population, slaves and masters alike, celebrated the occasion with great enthusiasm.

In Scandinavia, a period of festivities known as Yule contributed another impetus to celebration, as opposed to spirituality. As Winter ended the growing season, the opportunity of enjoying the Summer's bounty encouraged much feasting and merriment.
The Celtic culture of the British Isles revered all green plants, but particularly mistletoe and holly. These were important symbols of fertility and were used for decorating their homes and altars.
New Christmas customs appeared in the Middle Ages. The most prominent contribution was the carol, which by the 14th century had become associated with the religious observance of the birth of Christ.
In Italy, a tradition developed for re-enacting the birth of Christ and the construction of scenes of the nativity. This is said to have been introduced by Saint Francis as part of his efforts to bring spiritual knowledge to the laity.
Saints Days have also contributed to our Christmas celebrations. A prominent figure in today's Christmas is Saint Nicholas who for centuries has been honored on December 6th. He was one of the forerunners of Santa Claus.
Another popular ritual was the burning of the Yule Log, which is strongly embedded in the pagan worship of vegetation and fire, as well as being associated with magical and spiritual powers.
Celebrating Christmas has been controversial since its inception. Since numerous festivities found their roots in pagan practices, they were greatly frowned upon by conservatives within the Church. The feasting, gift-giving and frequent excesses presented a drastic contrast with the simplicity of the Nativity, and many people throughout the centuries and into the present, condemn such practices as being contrary to the true spirit of Christmas.
The earliest English reference to December 25th as Christmas Day did not come until 1043.

ภาพแปลกประหลาด

ภาพที่เพื่อนๆอาจไม่เคยเห็นมาก่อน









ดูเพลินๆ ล่ะกันน้า!!
บางภาพก็จะแสดงความรักระหว่างแม่กับลูก
บางภาพแสดงถึงธรรมชาติที่สวยงาม แม้ว่าจะเอาภาพมาต่อกัน
บางภาพถึงแม้จะดูโหดไปหน่อยแต่ก็แปลกดีน้า
บางภาพจะเป็นนักบินอวกาศอวกาศ

ภาพทั้ง 6 ภาพนี้น่าจะถูกใจต่อใครหลายคนที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนะคะ











วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ตามคาดไทมส์เลือก'โอบามา'เป็นบุคคลแห่งปี2008


เอเอฟพี - นิตยสารไทมส์เมื่อวันพุธ(17) ประกาศให้ว่าที่ประธานาธิบดี บารัค โอบามา เป็น "บุคคลแห่งปี" ประจำปี 2008

อันดับ 2 เป็นของ เฮนรี พอลสัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ตามมาด้วยประธานาธิบดีฝรั่งเศส นิโกลาส์ ซาร์โกซี, คู่ชิงรองประธานาธิบดีจากรีพับลิกัน ซาราห์ แพลิน และ จางยี่โหมว ผู้กำกับพิธีเปิดและปิดกีฬาโอลิมปิก 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน

เมื่อปีที่แล้วไทมส์ ได้เลือก วลาดิมีร์ ปูติน เป็นบุคคลแห่งปี ประจำปี 2007

"มันดูเหมือนว่าคุณจะไม่ประหลาดใจที่ได้เห็นหน้าของโอบามาอยู่บนหน้าปก" ไทมส์ระบุ "เขากลายเป็นบุคคลสาธารณะที่โดดเด่น ทั้งที่ก่อนหน้านี้เมื่อ 2 ปีก่อน ชาวอเมริกันกว่าครึ่งไม่เคยได้ยินชื่อเขาด้วยซ้ำ"

"หนึ่งในการเลือกตั้งที่บ้าคลั่งในประวัติศาสตร์ของอเมริกา เขาได้รับชัยชนะเหนือผู้มีประสบการณ์ 2 ผู้สมัครจากสถาบันการเมืองและความแตกแยกทางผิวสีก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐฯ"

ไทมส์ระบุว่าการเลือกอันดับ 2 เป็นงานที่ยากกว่าและสุดท้ายก็ชี้ไปที่ชายผู้มีหน้าที่จัดการกับวิกฤตทางการเงินครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ช่วงปี 1929

พอลสัน "ได้รับบทบาทประวัติศาสตร์ ณ ช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ " นิตยสารแห่งนี้ระบุ "ประธานาธิบดีเป็ดง่อยได้มอบหมายให้เขาควบคุมนโยบายเศรษฐกิจของประเทศเกือบทั้งหมดท่ามกลางภาวะความล่มสลายทางการเงิน"

วันอังคารที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2551

เคล็ดลับเทคนิคการเรียน



เคล็ดลับ 13 ประการ เพื่อการเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ กันดีกว่า...
1. รับผิดชอบ
- รับผิดชอบตนเอง ไม่ยืมจมูกคนอื่นหายใจ เป็นผู้ชนะจากความสามารถของตน
2. เริ่มต้นดี
- ช่วงเดือนแรกในรั้วมหาวิทยาลัย ถือเป็นช่วงวิกฤตของน้องใหม่ หากเริ่มต้นดี ความสำเร็วจะไม่อยู่ไกลเกินเอื้อม
3. กำหนดเป้าหมายในการเรียนอย่างแน่วแน่
- กำหนดเป้าหมายในการเรียนให้ชัดเจน ทั้งระยะสั้นและระยะยาว และทุ่มเทความพยายามให้บรรลุเป้าหมายนั้น
4. วางแผน และจัดการ
- มีการวางแผน จัดลำดับความสำคัญของกิจกรรมที่ต้องทำ หากทำตารางเวลาเป็นรายสัปดาห์ได้ยิ่งดี 5. มีวินัยต่อตนเอง
- เมื่อกำหนดเป้าหมาย วางแผน และจัดการ ตามข้อ 4 และ 5 แล้วต้องสัญญากับตนเองอย่างแน่วแน่ที่จะมีวินัย และปฏิบัติตาม
6. อย่าล้าสมัย
- วิทยาการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว การค้นคว้าหาความรู้ ต้องอิงกับข้อมูลที่ทันสมัย ทันเหตุการณ์
7. ฝึกฝนตนเองให้เรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ศึกษาข้อเสนอแนะในคู่มือเล่มนี้ และฝึกทักษะการเรียนรู้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ติดตัวตลอดไป
8. เตรียมพร้อมเพื่อเข้าสู่ชั้นเรียน
- เตรียมตัวเป็นผู้ใฝ่หาความรู้อย่างแข็งขัน หากเป็นไปได้เตรียมอ่านเอกสารที่จะเรียนมาก่อนเข้าห้องเรียน
9. มุ่งมั่น จดจ่อต่อบทเรียน
- มีสมาธิ สนใจ ตั้งใจ เวลาอาจารย์สอน ไม่เข้าเรียนเพื่อพูดคุยกัน ซังกะตาม รอเวลาเลิกชั้น
10. เป็นตัวของตัวเอง
- รู้จักคิดและทำ ด้วยความสามารถของตนเองคิดเสมอว่าเราเป็นผู้หนึ่งที่มีศักยภาพสูง
11. มีความกระตือรือร้น
- ความสำเร็จเป็นของผู้ที่มีความริเริ่ม เป็นฝ่ายรุกที่จะมุ่งหน้า และคว้าความสำเร็จเป็นของตน
12. มีสุขภาพดี
- อย่าลืมใส่ใจต่อสุขภาพร่างกาย กิจกรรมนันทนาการ และกิจกรรมสังคม วางแผนจัดเวลาต่อสิ่งเหล่านี้ให้พอเหมาะ
13. เรียนอย่างมีความสุข
- พยายามเก็บเกี่ยวความน่าสนใจในบทเรียน คิดเสมอว่าทุกวิชาน่าเรียนรู้ น่าสนุกทั้งนั้น แล้วท่านจะพบว่า เราก็เรียนอย่างมีความสุขได้ ก็ลองนำไปทำดูนะครับ ได้ผลหรือไม่ได้ผลอย่างไรก็มาบอกเล่าเก้าสิบกันด้วยล่ะ

50 อันดับประเทศที่มีเศรษฐกิจดีที่สุดในโลก

วัดตาม ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP
อันดับตาม IMF อันดับ ประเทศ GDP
— ทั่วโลก 40,894,780
— สหภาพยุโรป 12,865,6021
  1. สหรัฐอเมริกา 11,734,3002
  2. ญี่ปุ่น 4,671,1983
  3. เยอรมนี 2,754,7274
  4. สหราชอาณาจักร 2,133,0195
  5. ฝรั่งเศส 2,046,2926
  6. อิตาลี 1,680,1127
  7. จีน 1,653,6868
  8. สเปน 1,041,3389
  9. แคนาดา 993,44310
  10. เกาหลีใต้ 680,40911
  11. เม็กซิโก 675,25412
  12. อินเดีย 665,07113
  13. ออสเตรเลีย 618,02114
  14. เนเธอร์แลนด์ 607,53115
  15. บราซิล 603,78316
  16. รัสเซีย 581,78317
  17. สวิตเซอร์แลนด์ 357,96918
  18. เบลเยียม 352,27019
  19. สวีเดน 346,92620
  20. ไต้หวัน 305,20021
  21. ตุรกี 302,56122
  22. ออสเตรีย 294,66323
  23. อินโดนีเซีย 257,80624
  24. ซาอุดีอาระเบีย 250,89225
  25. นอร์เวย์ 250,80526
  26. โปแลนด์ 242,22627
  27. เดนมาร์ก 241,69028
  28. แอฟริกาใต้ 213,10029
  29. กรีซ 205,49330
  30. ฟินแลนด์ 186,15431
  31. ไอร์แลนด์ 184,70032
  32. โปรตุเกส 167,944— ฮ่องกง 164,14433
  33. ไทย 163,51234
  34. อิหร่าน 161,48335
  35. อาร์เจนตินา 152,04936
  36. มาเลเซีย 118,31837
  37. อิสราเอล 116,90538
  38. เวเนซุเอลา 108,16339
  39. สาธารณรัฐเช็ก 107,01540
  40. สิงคโปร์ 106,82241
  41. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 104,20442
  42. ปากีสถาน 103,42143
  43. ฮังการี 100,37144
  44. โคลอมเบีย 97,38945
  45. นิวซีแลนด์ 96,67846
  46. ชิลี 94,10047
  47. ฟิลิปปินส์ 84,83548
  48. แอลจีเรีย 84,81749
  49. อียิปต์ 77,03250
  50. โรมาเนีย 71,323

วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2551

10 อันดับคนดังรวยที่สุดที่มีอายุไม่ถึง 30 ปี


1. บียอนเซ โนวล์ส - 80 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ( 2849.6 ล้านบาท )
2. จัสติน ทิมเบอร์เลก - 43 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ( 1531.66 ล้านบาท )
3. โคบี ไบรแอนท์ - 39 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ( 1389.18 ล้านบาท )
4. เลอบรอน เจมส์ - 38 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ( 1353.56 ล้านบาท )
5. โรเจอร์ เฟเดอร์เรอร์ - 35.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ( 1253.12 ล้านบาท )
6. เคียรา ไนท์ลีย์ - 32.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ( 1146.964 ล้านบาท )
7. มาเรีย ชาราโปวา - 26.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ( 929.682 ล้านบาท )
8. แดเนียล แรดคลิฟฟ์ - 25.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ( 894.062 ล้านบาท )
9. ไมลีย์ ไซรัส - 25.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ( 894.062 ล้านบาท )
10. แมรี-เคท และ แอชลีย์ โอลเซน - 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ( 534.3 ล้านบาท )

วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ยลตำราเลขอายุเกือบ 400 ปี ค้นเจอในตลาดมือสองของสวิส


ของบางอย่างอาจไร้ค่าในสายตาคนทั่วไป แต่สำหรับบางคนกลับเป็นสิ่งที่มีค่ายิ่ง โดยเฉพาะนักคณิตศาสตร์ที่ค้นพบตำราเก่าแก่อายุเกือบ 400 ปีในตลาดมือสอง และซื้อมาได้ด้วยเงินแค่ 6,000 บาท

ศ.(กิตติคุณ) อาเลียน ชาร์ลิก (Alain Schaerlig) นักคณิตศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยโลซานน์ (University of Lausanne) สวิตเซอร์แลนด์ อวดหนังสือที่เขาพบโดยบังเอิญในตลาดขายของมือสองที่เมืองเจนีวา แก่บรรดาสื่อมวลชนเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

เอเอฟพีที่เกาะติดรายงานข่าวนี้ ระบุว่าตำราคณิตศาสตร์หายากเล่มดังกล่าวตีพิมพ์ในประเทศเยอรมนี ด้วยอักษรกอธิค ตั้งแต่ปี 2162 โดยหนังสืออายุ 389 ปีเล่มดังกล่าวเขียนขึ้นโดย โยฮัน รูดอล์ฟ ฟอน กราฟเฟนเรียด (Johan Rudolf von Graffenried) นักคณิตศาสตร์ชาวสวิสจากเมืองเบิร์น สวิตเซอร์แลนด์

ศ.(กิตติคุณ) ชาร์ลิก พบหนังสือดังกล่าวเมื่อ 2 ปีที่แล้ว และซื้อมาด้วยเงิน 200 ฟรังส์สวิส หรือประมาณ 6,000 บาท และได้ตั้งชื่อหนังสือเล่มนี้ว่า “นับแต่ปี 1619” (To count on 1619) ซึ่งตอนนี้เขาได้มอบหนังสือเล่มดังกล่าวให้กับพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ในเจนีวา (History of Science Museum) แล้ว

พระจันทร์ยิ้มจากมุมอื่นๆ ของโลก

พระจันทร์ยิ้มแฉ่งที่ปรากฎบนท้องฟ้านั้นนานๆจะมีสักครั้งหนึ่งไม่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้นยังมีอีกหลายประเทศเชียวล่ะ ก็ลองดูเอาล่ะกันนะว่ามีประเทศอะไรกันบ้าง
ภาพท้องฟ้ากรุงเทพฯ โดย มาร์ติน คูเปอร์ (Martin Cooper) - (บีบีซีนิวส์)

เมืองอู่ฮั่น ในมณฑลหูเป่ย ทางตอนกลางของประเทศ

เมืองกว่างโจว ในมณฑลกว่างตง ทางใต้ของจีน

ใบหน้ารูปยิ้มเหนือท้องฟ้าเมืองซีอัน มณฑลส่านซี ทางตะวันตกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม

ภาพท้องฟ้าในเมืองริโอ แกรนด์ ประเทศเปอโต ริโก โดย คาลอส บาซิกาลูโพ (Carlos Bacigalupo) - (บีบีซีนิวส์)
ภาพท้องฟ้าในเทลอาวัฟ อิสราเอล โดย ดอเรียล ไฮมอฟ (Doriel Haimov) - (บีบีซีนิวส์)

ภาพท้องฟ้าในไนโรบี เคนยา โดย ไมค์ บริสโทว์ (Mike Bristow) - (บีบีซีนิวส์)

ภาพท้องฟ้าในเมืองเมลเบิร์น ออสเตรเลีย โดย เฟลิเซีย ซูตันท์โย (Felicia Sutantyo) - (บีบีซีนิวส์)
ภาพปรากฎการณ์ "พระจันทร์ยิ้ม" นี้ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ระบุว่า เป็นปรากฏการณ์ดวงจันทร์ ดาวศุกร์ และ ดาวพฤหัสบดี อยู่ใกล้กัน (Conjunction of Moon, Venus and Jupiter) ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ในช่วงหัวค่ำของวันที่ 1 ธ.ค.นี้ โดยดาวศุกร์ และดาวพฤหัสบดี อยู่ห่างกันเพียง 2 องศา และดวงจันทร์ปรากฏเป็นเสี้ยว หันด้านมืดเข้าหาดาวเคราะห์ทั้งสองพอดี ทั้งนี้ ดาวศุกร์จะสว่างกว่าดาวพฤหัสบดี และอยู่เยื้องต่ำกว่าเล็กน้อย