วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

Histoire et culture de la Chine


Histoire, dynasties et culture de la Chine

La Chine a la civilisation ininterrompue la plus longue de l'histoire, elle a plus de 5000 ans . Grâce aux écrits anciens et aux découvertes archéologiques , la Chine occupe une place importante au niveau du patrimoine culturel mondial. De nombreuses découvertes viennent de Chine, comme le papier, la poudre ou la soie. La Chine ayant vécu repliée sur elle-même durant fort longtemps, certaines découvertes comme l'imprimerie n'ont pas dépassé les frontières du pays ou d'autres comme le pliage du papier ont du passer par un autre pays pour devenir un véritable art, comme l'origami. La Chine reste un pays fascinant, un pays riche de sa culture et de son histoire.

Partons à la découverte de l'histoire de la Chine et de sa culture transmise de génération en génération.

วันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

Parcs et jardins


On trouve des jardins anciens dans le cœur de Paris comme celui des Tuileries et celui du Luxembourg. Le jardin des Tuileries a été créé au XVIe siècle, sur la rive droite de la Seine, à proximité du Louvre pour le palais éponyme aujourd'hui disparu. Le jardin du Luxembourg, sur la rive gauche, était autrefois une dépendance privée du château construit pour Marie de Médicis vers 1625. Le jardin des Plantes, institué par Guy de La Brosse, le médecin de Louis XIII, pour la culture des plantes médicinales, fut quant à lui le premier jardin public de Paris.

C'est toutefois au Second Empire que les jardins parisiens doivent l'essentiel de leur physionomie actuelle. La création d'espaces verts fut une facette importante de la politique d'aération d'une ville où s'entassait une population en rapide augmentation. Sous la conduite de l'ingénieur Jean-Charles Alphand et du paysagiste Jean-Pierre Barillet-Deschamps, un nouveau type de jardin voit le jour. Le bois de Boulogne et le bois de Vincennes, alors à l'extérieur de Paris, sont aménagés : situés respectivement à l'extrême ouest et à l'extrême est de Paris intra-muros, ils constituent aujourd'hui, et de loin, les espaces verts les plus étendus de la ville. Certains jardins du centre sont réaménagés et des squares de quartier sont créés. Dans les quartiers plus récents, d'importants parcs sont dessinés, Monceau (autrefois connu sous le nom de « folie de Chartres »), Montsouris, les Buttes-Chaumont ont été conçus par l'ingénieur de Napoléon III.

Depuis les années 1980, plusieurs espaces verts ont été aménagés dans des zones d'activités désaffectées. Le parc de la Villette, imaginé par l'architecte Bernard Tschumi à l'emplacement des anciens abattoirs de Paris, est aujourd'hui le plus grand parc de Paris intra-muros après les bois de Boulogne et de Vincennes. Durant les années 1990, le parc de Bercy, celui de Belleville et d'autres encore ont vu le jour. Des jardins familiaux ou éducatifs ont également agrémenté la périphérie de la ville le long de l'ancienne ligne ferroviaire circulaire de « petite Ceinture ». Les jardins d'Éole inaugurés en 2007 sont le plus important parc créé à Paris dans les années 2000.

วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ทางด่วนในทะเล

รู้หรือไม่ "ในมหาสมุทรก็มีทางด่วนเหมือนกัน"

"แอนนา" เป็นเต่าสีเขียวเพศเมีย ที่นักวิทยาศาสตร์จากกองทุนเวิลด์ไวลด์ไลฟ์ฟันด์ (WWF) และมหาวิทยาลัยอุเดย์ยานา ประเทศอินโดนีเซีย ติดตั้งเครื่องติดตามการเดินทางของมัน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว มาถึงเวลานี้ นักวิทยาศาสตร์พบว่า "แอนนา" ว่ายน้ำจากอินโดนีเซียไปยังแนวปะการังแถบตะวันตกของออสเตรเลีย บริเวณชายฝั่งคิมเบอร์ลี-พิลบารา ซึ่งเส้นทางการว่ายนี้แปลกแหวกแนว แสดงให้เห็นว่า ในทะเลก็มี "ทางด่วนในมหาสมุทร"

นายกิลลี่ เลเวลลินน์ จากกองทุนเวิลด์ไวลด์ไลฟ์ฟันด์ กล่าวว่า "แอนนาว่ายน้ำผ่านสามเหลี่ยมปะการัง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่บริเวณประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ หมู่เกาะโซโลมอน และติมอร์เลสเต พื้นที่แห่งนี้มีเต่าหลากหลายพันธุ์ นับเป็น 6 ใน 7 ของเต่าสายพันธุ์ทั้งหมดที่มีอยู่ในโลก"

เลเวลลินน์ กล่าวต่อไปอีกว่า "เต่าเป็นสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ เนื่องจากปัญหาด้านมลพิษ การประมงที่จับเต่าขึ้นมาโดยบังเอิญ การลักลอบซื้อขายเต่าและไข่เต่า"

ดังนั้นการศึกษาเส้นทางการว่ายน้ำของแอนนาและเต่าตัวอื่นๆ จึงมีขึ้นเพื่อศึกษาว่า พื้นที่ใดควรเป็นพื้นที่ที่นักอนุรักษ์ควรเข้าไปปกป้องคุ้มครองสัตว์และพืชในทะเล เพื่อให้พวกมันมีอายุยืนนานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ทั้งนี้ "โครงการสามเปลี่ยมปะการัง" ของกองทุนเวิลด์ไวลด์ไลฟ์ฟันด์ มีขึ้นเพื่อคุ้มครองสัตว์และพืชทะเลจากการกระทำของมนุษย์ ในแถบมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก พร้อมกับพัฒนาเครือข่ายพื้นที่คุ้มครอง (MPAs) เพื่อปกป้องสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล เช่น การเฝ้าสังเกตการจับปลาของชาวประมงไม่ให้จับสัตว์ขึ้นมาในจำนวนที่มากเกินไป

วันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ฝึกสมอง..ให้เป็นคนเก่ง



อย่าทำงานซ้ำซ้อนในเวลาเดียวกันเพราะอาจเกิดการผิดพลาดได้ง่าย นอกจากนี้ การแข่งขันยังช่วยกระตุ้นสมองให้โลดแล่นอีกด้วย

"การฝึกฝนทำให้คุณเป็นคนเก่ง" นี่คือคำกล่าวของนักประสาทวิทยาชาวสวีเดน โทร์เคล คลิงเบิร์ก ว่าคนเราควรทำอย่างไรให้ได้ข้อมูลและมีความเข้าใจมากที่สุดโดยที่เราไม่ต้องใช้สมองจนเกินกำลังหรือไม่ทำให้รู้สึกเบื่อหน่าย เนื่องจากสมองทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดในระยะเวลาที่จำกัด แต่เราก็มีวิธีที่จะใช้ศูนย์ความคิดของเราให้มีประโยชน์มากที่สุดเช่นกัน

Multitasking คุณกำลังเดินทางไปพบปะพูดคุยธุรกิจและระหว่างทางครุ่นคิดวิธีการเจรจาตกลงต่างๆ คุยโทรศัพท์หรือเขียนจดหมาย แต่การทำงานหลายๆอย่างในคราวเดียวกันมีความเสี่ยงกับความผิดพลาดในการส่งอีเมลล์ผิดให้กับคู่เจรจา ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้ทำงานหรือธุระใดๆก็ตามให้เป็นไปตามลำดับ อย่าทำงานหลายอย่างในคราวเดียวกันเพื่อป้องกันการผิดพลาด

วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

Cute Sisters....WoW




ดูเพื่อความน่ารักก็แล้วกันนะ!!!




เทศกาล "นีซ คาร์นิวัล"


อีกหนึ่งเทศกาลที่ถือว่าเป็นสีสัน ความสนุกสนานของคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว นั่นก็คือเทศกาลนีซ คาร์นิวัล ที่ปีนี้จัดขึ้นต่อเนื่องกันเป็นครั้งที่ 125 แล้ว

ในเมืองนีซทางใต้ของประเทศฝรั่งเศส ที่ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะไม่ค่อยดีนัก แต่ภาพของงานนี้ก็ยังคึกคักสนุกสนาน ด้วยขบวนแห่นานาประเภท โดยเฉพาะขบวนลูกโป่งที่รังสรรค์เป็นรูปต่างๆ ทั้งการ์ตูน มังกร รวมทั้งใบหน้าคนดัง และเมื่อปีนี้มีคอนเซ็ปต์ที่ว่า "King of Masquerade" ตุ๊กตาสวมหน้ากากในรูปลักษณ์ต่างๆ จึงมีให้เห็นอย่างมากมาย ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของงานกันเลยทีเดียว พร้อมกันนี้ก็ยังประดับประดาสถานที่ด้วยแสง สี เสียง อย่างครบถ้วนและสวยงาม สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่นักท่องเที่ยวอย่างมาก

นอก จากสีสันของขบวนพาเหรดที่น่าจับตามองแล้ว ผู้คนในท้องถิ่นยังเป็นสีสันที่สำคัญของงาน ด้วยต่างพร้อมใจกันแต่งตัวมาในชุดต่างๆ ทั้งแต่งเป็นชาวจีนในอดีต ชาวยุโรปยุคเรเนซองส์ ที่นักท่องเที่ยวก็ไม่พลาดที่จะลั่นชัตเตอร์เก็บไว้เป็นที่ระลึก และงานใหญ่ในช่วงฤดูหนาวประจำปีอย่างนี้ไม่ใช่จัดขึ้นวันเดียวนะคะ งานนี้ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกเพียบจนถึงวันที่ 1 มีนาคมเลย...

วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

มิคาอิล โปรโครอฟ รวยที่สุดในรัสเซีย




มิคาอิล โปรโครอฟ ไทคูนด้านเทคโนโลยี เป็นบุคคลที่รวยที่สุดในรัสเซีย ด้วยทรัพย์สินมูลค่า 14,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

รายงานของนิตยสารฟินานส์ เมื่อวานนี้ ระบุให้ โปรโครอฟ เป็นบุคคลที่รวยที่สุดในรัสเซีย ด้วยทรัพย์สินมูลค่า 14,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 493,500 ล้านบาท สำหรับโปรโคลอฟได้รับการยกย่องว่าเป็นคนโสดที่มีเสน่ห์และเนื้อหอมที่สุดของประเทศ มีชื่อในเรื่องความฟุ่มเฟือยและไลฟสไตล์ในด้านกีฬา เขาเป็นเจ้าของโอเนซิม ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนด้านเทคโนโลยีและโครงการเหมืองแร่
ส่วนผู้ที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับ 2 ของรัสเซีย ได้แก่ โรมัน อบราโมวิช เจ้าของสโมสรฟุตบอลเชลซีในอังกฤษ มีทรัพย์สินมูลค่า 13,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ โอเลก เดริปาสกา นักธุรกิจผู้ทรงอิทธิพลด้านอะลูมิเนียม ซึ่งรวยที่สุดในรัสเซียปีที่แล้ว เจอพิษเศรษฐกิจจนทรัพย์สินที่เคยมีกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงมาเหลือเพียง 4,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น.

แดนฝันในวรรณกรรม


มีดินแดนหลายแห่งในโลกนี้เป็นแรงบันดาลใจให้นักประพันธ์สร้างผลงานอันน่าตราตรึงใจ และเป็นดินแดนที่น่าไปเยี่ยมเยือน

นิตยสาร "รีดเดอร์ไดเจสท์" อ้างอิงจาก "Lonely Planet BLUELIST 2007" แนะนำไว้ดังนี้ สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ปลายทศวรรษ 1800 ดินแดนแห่งนี้ปรากฏอยู่ในนิยาย Heart of Darkness ของ โจเซฟ คอนราด อีก 60 ปีต่อมา บาร์บารา คิงซอล์ฟเวอร์ สะท้อนภาพของคองโกมุมมองของผู้หญิงยุคหลังอาณานิคมใน The Poisonwood Bible


ลอสแองเจลิส สหรัฐ ชาร์ล บูคาวสกี นักเขียนผู้มาจากชนชั้นล่าง เคยทำงานไปรษณีย์ย่านใจกลางลอสแองเจลิส นวนิยายเช่น Factotum และ Post Office และบทกวีของเขาเขียนขึ้นจากฉากชีวิตจริงในย่านดาวน์ทาวน์ของฮอลลีวู้ดตะวันตก และบนถนนฮอลลีวู้ดบูเลอวาร์ด


ฟลีตสตรีต ลอนดอน ถิ่นเก่าของหนังสือพิมพ์หลายสำนัก โดยเฉพาะร้านเหล้า Ye Olde Cheshire Cheese กลายเป็นฉากที่ปรากฏอยู่ในนวนิยายของนักเขียนใหญ่ ตั้งแต่ ซามูเอล จอห์นสัน, เซอร์อาเธอร์ โคนัน ดอยล์, ชาลส์ ดิกเคนส์

วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ภาพขำขำ ดูแล้วอารมณ์ดี
















7 สถานที่ขอแต่งงานสุดแสนโรแมนติก

7 สถานที่ขอแต่งงานสุดแสนโรแมนติกต้อนรับ "วาเลนไทน์" หวานๆ

อ่าวมาหยา เกาะพี พี จังหวัดกระบี่ ประเทศไทย
วันแห่งความรัก หลายต่อหลายคนถือเอาเป็นฤกษ์งามยามดีที่จะทวงถามคำตอบจากคนรักว่าจะยอมตกลง ปลงใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน มี 7 สถานที่โรแมนติกมาแนะนำ



วันวาเลนไทน์ นอกจากจะเป็นวันที่คู่รักจะเตรียมหาซื้อของขวัญแทนใจกันแล้ว ยังเป็นอีกวันที่หนุ่มๆ อยากใช้โอกาสนี้ในการขอคนรักแต่งงานนั้น คุณสุภาพบุรุษคงจะต้องตระเตรียมการเพื่อสร้างความประทับใจให้มากที่สุดเรียก ได้ว่า ให้สาวเจ้าซาบซึ้งจนต้องตอบตกลงโดยมิลังเลใจ ซึ่งคงจะไม่ได้เป็นเพียงแค่นั่งคุกเข่า เปิดกล่องแหวนและเอ่ยปากถามหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเพียงแค่นั้น แต่สถานที่ที่จะเลือกใช้เป็นเวทีเจรจาครั้งสำคัญในชีวิตนี้ ดูจะเป็นโจทย์ที่ค่อนข้างยากสำหรับสุภาพบรุษทั้งหลายอยู่ไม่น้อย ในโอกาสที่วาเลนไทน์กำลังใกล้เข้ามา อโกด้า เซอร์วิสเซส ผู้ให้บริการเว็บไซต์จองห้องพักในโรงแรมในเอเชียและทั่วโลกผ่านเว็บไซต์ http://www.agoda.co.th/ ขอแนะนำ 7 สถานที่สุดแสนโรแมนติกจากทั่วโลกให้กับ บรรดาหนุ่มๆ ทั้งหลายที่ความรักกำลังผลิบานเต็มที่ใช้เป็นสถานที่ขอว่าที่เจ้าสาวแต่งงาน กันในวันวาเลนไทน์ที่กำลังจะมาถึง ขอแนะนำเสนอสถานที่สุดแสนโรแมนติกในการขอคู่รักของคุณแต่งงานจากทุกมุมโลก ดังนี้

ชิงช้าสวรรค์ ลอนดอน อายน์ กรุงลอนดอน ประเทศ อังกฤษ

ชิงช้าสวรรค์ความสูงถึง 135 เมตร แห่งนี้ เหมาะอย่างยิ่งกับการควงคู่กันขึ้นไปสัมผัสสายลมยามค่ำคืนในบรรยากาศสุดแสน โรแมนติกพร้อมชมวิวทิวทัศน์ทั่วกรุงลอนดอนแบบกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา จากจุดที่สูงที่สุดในอังกฤษนี้ ในช่วงวันแห่งความรัก บรรดาคู่รักมักจะจับจองความเป็นส่วนตัวบนที่สูงในแคปซูลแชมเปญที่จะให้ความ เป็นส่วนตัวและพาคุณล่องลอยไปบนอากาศพร้อมดื่มแชมเปญ Laurent-Perrier รสเลิศร่วมกันเพื่อกับฉลองวันที่แสนจะโรแมนติกนี้ และเมืองผู้ดีแห่งนี้ยังมีประเพณีประจำปีที่ออกจะแปลกกว่าทุกๆ ที่ คือในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ของทุกปี หญิงสาวจะสามารถเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอชายหนุ่มแต่งงานได้อีกด้วย สาวใดที่หนุ่มๆ ปล่อยให้รอแต่ไม่ขอสักที คงต้องชวนคู่รักไปเยือนกรุงลอนดอนสักทีแล้ว หอไอเฟล กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

หากไม่มีหอไอเฟล ติดอันดับสถานที่แนะนำให้หนุ่มๆ ใช้เป็นที่คุกเข่าขอความรักกับสาวๆ คงเป็นไปไม่ได้ ด้วยการได้รับการขนานนามว่าเป็นนครแห่งความรักทำให้หอไอเฟล แห่งกรุงปารีส กลายเป็นไอคอนสำคัญของมหานครแห่งนี้และติดอันดับไอคอนของโลกเลยก็ว่าได้ ในวันวาเลนไทน์ของทุกปีนั้น หอไอเฟลจะคราคร่ำไปด้วยคู่รักทุกเพศทุกวัยที่จับจองพื้นที่ที่จะใช้เวลาสุด แสนโรแมนติกด้วยกัน เชื่อว่าบรรยากาศยามค่ำคืนบนหอสูงแห่งนี้จะเป็นแรงผลักดันให้บรรดาสุภาพ บุรุษทั้งหลายกล้าเผยความในใจขอคนรักแต่งงานและสาวเจ้าก็น่าจะยินดีรับอีก ด้วย ขอบอกว่า พระเอกฮอลลี่วู้ด ชื่อดัง อย่างทอม ครูซ ก็ใช้หอไอเฟลแห่งนี้คุกเข่าขอหมั้นคนรักมาแล้ว ใครจะเลียนแบบ ก็ไม่ว่ากัน ซิดนีย์ ฮาร์เบอร์ บริดจ์ ประเทศ ออสเตรเลีย สะพานซิดนีย์ ฮาร์เบอร์ บริดจ์

เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ขอแนะนำ ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโครงสร้างเหล็กถักรูปโค้งที่งดงาม และยังนับเป็นสะพานแขวนที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นเพื่อเป็นสะพานแห่งความหวังในยุคที่เศรษฐกิจตกต่ำ แต่ในช่วงวาเลนไทน์ ซิดนีย์ ฮาร์เบอร์ บริดจ์ ก็จะกลายเป็นสะพานแห่งความหวังของคนที่ต้องการลั่นประตูวิวาห์ในเร็ววัน ด้วยบรรยากาศที่โรแมนติกไม่แพ้ที่ใด สายลมพัดเย็นสดชื่นด้านบนกับฉากท้องฟ้าที่งดงามยามพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบ ฟ้าและยามค่ำคื่นที่พื้นน้ำด้านล่างที่สะท้อนแสงสีของเมืองซิดนีย์ ประกอบกับวิวของโอเปร่า เฮ้าส์ สถาปัตยกรรมที่เลื่องชื่อระดับโลก ส่วนผสมที่ลงตัวทั้งหลายเหล่านี้ คงจะช่วยให้ความหวังความฝันในเรื่องความรักกลายเป็นจริงได้ไม่ยากเลยทีเดียว

เวนิส เมืองสุดโรแมนติกติดอันดับโลก




ราชินีแห่งอะเดรียติก เมืองที่มีคลองไว้แทนถนน เพราะทั่วทั้งเมืองเวนิสนั้นมีคลองมากถึง 180 คลองและมีเรือไว้แทนรถ ส่วนถนนก็มีไว้ให้คนเดินซะมากกว่า รถราในเวนิสแทบจะหมดความหมายไปเลย

เวนิสเป็นเมืองเดียวในโลกที่ตั้งอยู่ในน้ำ และมีสะพานเชื่อมคลองถึง 450 สะพาน เป็นเมืองโรแมนติกที่คนทั่วโลกอยากมาสัมผัสสักครั้ง เป็นเมืองร้อยเกาะที่ไม่มีเงาะอร่อย แต่มีประติมากรรมอันงดงามเหนือคำบรรยาย คลองใหญ่ที่สุดที่ตัดผ่านกลางเมือง เรียกว่า Canal Grand มีโบส์สมัยกอธิกและบาร็อกถึง 90 โบสถ์ ด้วยกัน !

เวนิส ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอิตาลี บรรยากาศโดยรวมค่อนข้างหงอยเหงาดูอึมครึมซึมเซา เพราะฝนตกปรอยๆ เสมอ แต่ก็ให้อารมณ์โรแมนติกดีแท้

จตุรัสซานมาร์โก รายล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมสีสันจับตา และเป็นสถานที่ๆโด่งดังที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง Palais des Doges หรือวังของท่านดยุกเจ้าเมืองเวนิส เมือง Murano ที่มีชื่อเสียงในการผลิตเครื่องแก้ว

เมือง Burano มีชื่อทางการผลิตผ้าลูกไม้ อาคารบ้านเรือนสีลูกกวาด หรือแวะชมภาพเขียนของจิตรกรชาวเวนิสที่ Gallerie Dell ที่พลาดไม่ได้ก็คือ ponte dei sospiri สะพานถอนใจ เป็นสะพานเชื่อมระหว่างวังของท่านดยุกฝั่งอิสรภาพ ไปยังคุกซึ่งเป็นสถานที่นักโทษจะสิ้นอิสรภาพ นักโทษมีโอกาสสั้นที่จะสัมผัสกับอิสรภาพครั้งสุดท้ายก่อนจะข้ามสะพานนี้ไปยังคุก ฉะนี้แลจึงต้องถอนใจ

ฉลองครบรอบ 800 ปี "เคมบริดจ์" บนเส้นทางประวัติศาสตร์สู่ศูนย์กลางความก้าวหน้าของโลกอนาคต

มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกเพียงไม่กี่แห่งที่มีประวัติความเป็นมา ยาวนานมาก โดยในปีนี้ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์จะมีการจัดงานฉลองครบรอบ 800 ปี เพื่อเป็นการรำลึกถึงเส้นทางอันยาวไกลของมหาวิทยาลัย

ย้อนหลังไปในปี 1209 ตามหลักฐานการจดบันทึกของ "โรเจอร์ ออฟ เวนโดเวอร์" นักบันทึกเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์อังกฤษ ระบุว่า มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดหยุดทำการเรียนการสอนเพื่อเป็นการประท้วงคำพิพากษาของ ทางการออกซ์ฟอร์ด ที่ตัดสินแขวนคอนักศึกษาของมหาวิทยาลัย 2 คน ด้วยข้อหาฆ่าคนตาย ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดความขัดแย้ง กันระหว่างกลุ่มนักศึกษาและอาจารย์ กับกลุ่มชาวบ้าน ส่งผลให้คณาจารย์และนักศึกษาจำนวนหนึ่งตัดสินใจอพยพออกจากเมืองออกซ์ฟอร์ดไป ยังเมืองเล็กๆ ริมฝั่งแม่น้ำแคม และเริ่มต้นประวัติศาสตร์หน้าแรกของ "เคมบริดจ์" ในสถานะมหาวิทยาลัย

ในช่วงแรก เคมบริดจ์ ยังไม่ใช่มหาวิทยาลัยที่มีสถานะทัดเทียมกับมหาวิทยาลัยอื่นในยุโรป กระทั่งในปี 1231 สมเด็จพระเจ้าเฮนรี่ ที่ 2 แห่งอังกฤษทรงเลื่อนสถานะของแคมบริดจ์ ให้มีกฏของตัวเองเพื่อใช้ควบคุมสมาชิกในสถาบัน และทรงโปรดให้มีการยกเว้นการเก็บภาษีบางส่วน และต่อมา ในปี 1233 สมเด็จพระสันตะปาปา เกรเกอรี่ ที่ 9 แห่งคริสตจักร นิกายโรมันคาทอลิค ก็ทรงออกกฏหมายรองรับให้ผู้ที่จบการศึกษาจากสถาบันเคมบริดจ์ มีสิทธิถ่ายทอดความรู้ในฐานะอาจารย์ผู้สอนได้ทั่วอาณาเขตคริสตจักร ส่งผลให้เคมบริดจ์มีสถานะเทียบเท่ากับสถาบันระดับอุดมศึกษาของยุโรป และเริ่มเป็นที่รู้จักในหมู่นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอื่นๆ ในยุโรปที่สนใจมาศึกษาค้นคว้าข้อมูลหรือทำการสอน

Peterhouse College - วิทยาลัยแห่งแรกของ ม.เคมบริดจ์

วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

"เพิร์ธ"เมืองทรงเสน่ห์

เพื่อนๆรู้ไหมว่าออสเตรเลียมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายและสวยงามมาก อยากรู้ว่ามีที่ไหนน่าท่องเที่ยวบ้างมาดูกันดีกว่า
จุดมุ่งหมายของการเดินทางมายังออสเตรเลียของหลายๆคนทั้งนักท่องเที่ยวหรือ แม้แต่นักเรียนนักศึกษาส่วนใหญ่มักเป็นเมืองซิดนีย์หรือเมลเบิร์น ในฝั่งตะวันออก ทั้งคู่ต่างเป็นเมืองที่มากไปด้วยแหล่งท่องเที่ยว แหล่งช้อปปิ้ง แหล่งอาหารการกินและสถานบันเทิงต่างๆ จนเป็นที่คุ้นเคยของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
แต่ถ้าย้ายไปออสเตรเลียฝั่งตะวันตกยังรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย (Western Australia : WA) ที่นี่มีเมืองทรงเสน่ห์อย่าง "เพิร์ธ" (Perth) เป็นหนึ่งในเมืองแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยว เพิร์ธ เป็นเมืองหลวงแห่งรัฐ WA เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่ามีช่วงเวลากลางวันยาวนานที่สุดในออสเตรเลีย ทำให้ผู้อยู่เมืองนี้สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ยาวนานและสนุกสนานยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตามตัวเมืองเพิร์ธไม่ได้ใหญ่โตมากมาย ทำให้สามารถเดินหรือนั่งรถเมล์CAT (Central Area Transit) ที่มีให้บริการฟรีๆ หรือจะเสียเงินเล็กน้อยนั่งรถเมล์เพิร์ธแทรมซิตี้เอ็กซปลอเรอร์ที่วิ่ง ระหว่างสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆก็สะดวกสบายเป็นอย่างมาก

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปเยือนเมื่อมาเหยียบดินแดนเพิร์ธแล้วก็คือ "สวนสาธารณะคิงส์ปาร์ค" (Kings Park) ซึ่งตั้งอยู่บนเนินสูงใจกลางเมือง เราสามารถชมวิวสวยๆในมุมสูงๆของเมืองเพิร์ธได้จากคิงส์ปาร์คแห่งนี้ นอกจากนั้นสวนสาธารณะใจกลางเมืองนี้ยังเต็มไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิดนับพัน ชนิดเลยทีเดียว

อาคารทรงทิวดอร์ย่านดอนคอร์ตที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูป

ชมวิวเมืองมุมสูงและไม้นานาพันธุ์แล้ว ก็ต้องไปตามหาเจ้า Black Swan หรือ "หงส์ดำ" สัตว์สัญลักษณ์ของเมืองเพิร์ธกันที่ "ทะเลสาบมองเกอร์" (Lake Monger) แหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำและสัตว์ปีกหลายชนิดรวมถึงเจ้าหงส์ตัวสีดำปาก สีแดงสัตว์สงวนท้องถิ่นของที่นี่ด้วย ใครที่ชอบส่องนกล่ะก็ที่ทะเลสาบมองเกอร์ก็น่าจะให้ความเพลิดเพลินได้ไม่ผิดหวัง


Government House อาคารทรงโกธิกที่งดงามที่สุดในเมืองเพิร์ธ

พูดถึงหงส์ที่เป็นสัตว์แล้ว มายลแม่น้ำหงส์ หรือ "แม่น้ำสวอน" (Swan River) กันบ้าง แม่น้ำสวอนนี้นอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นแม่น้ำที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งแล้ว ยังเป็นแม่น้ำที่เก่าแก่สายหนึ่งของโลกด้วย สายน้ำอันคดเคี้ยวไปมานี้จะไปทะเลที่ฟรีแมนเทิลเมืองปากอ่าว ระหว่างเส้นทางริมแม่น้ำสวอนอันทรงเสน่ห์เป็นที่ตั้งของบ้านเรือนสวยๆมากมาย นักท่องเที่ยวรวมถึงทัวร์จึงมักนิยมนั่งเรือล่องแม่น้ำสวอนชมความงามของ ธรรมชาติและเมืองเพิร์ธ และยังอาจจะไปแวะชมไร่องุ่น แหล่งผลิตไวน์ชั้นเลิศต่างๆด้วย

หวังว่าคงชอบกันน้า!!

วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

.. ปรัชญาความรัก 14 แบบ ..


A man overtime falls in love with woman he is attracted to, and a woman overtime become more attracted to the man she loves.
ผู้ชายมักจะตกหลุมรักคนที่เค้าหลงเสน่ห์ และผู้หญิงจะหลงเสน่ห์คนที่เธอตกหลุมรัก
Friendship is love minus sex and plus reason LOVE is friendship but love is friendship plus sex and minus reason.
มิตรภาพคือ ความรักลบด้วยเซ็กซ์ และบวกเอาเหตุผลเพิ่มเข้าไป ส่วนรักคือ มิตรภาพบวกด้วยเซ็กซ์ และลบเอาเหตุผลออกไป
To love is nothing. To be loved is something. To love and be loved is everything!!!!
การได้รักเป็นเรื่องขี้ผง การถูกรักเป็นเรื่องของอะไรบางอย่าง ส่วนการได้รักและการถูกรักเป็นทุกอย่าง (ว้าว)
You may only be one person to the world but you may also be the world to one person
คุณอาจจะเป็นแค่ "คนๆ หนึ่ง" ในโลกใบนี้ แต่คุณอาจจะเป็น "โลกทั้งใบ" ของคนคนหนึ่งก็ได้
You know when you love someone when you want them to be happy even if their happiness means that you're not of it.
คุณรู้ว่าคุณรักเค้าก็ต่อเมื่อคุณต้องการให้เค้ามีความสุข แม้ว่าความสุขนั้นจะหมายถึง การที่คุณไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของมัน
Love looks not with eyes, but with the mind.
ความรักนั้นเห็นไม่ได้ด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยใจ
Love is like standing in the wet cement. The longer you stay, the harder it is to leave. And you can never go without leaving your shoes behind.
ความรักก็เหมือนปูนเปียกๆ ยิ่งคุณอยู่นานเท่าไหร่ก็ยิ่งติดหนึบ จากไปไม่ได้เท่านั้น และคุณจะไม่มีวันจากมาได้เลย โดยที่ไม่ได้ทิ้งรองเท้าไว้ข้างหลัง
Don't marry a person you can live with, marry somebody you can't live without.
จงอย่าแต่งงานกับคนที่คุณ "อยู่ด้วยได้" จงแต่งงานกับคนที่คุณ "ขาดไม่ได้"
If you love someone tell them don't wait or also you will lose the chance.
ถ้าคุณรักใคร บอกเค้าซะ อย่ารีรออยู่เลย ไม่งั้นคุณจะเสียโอกาสนะ..
It only takes a second to say " I love you" but it will take a lifetime to show you how much.
ใช้เวลาแค่เพียงชั่ววินาทีในการบอกว่า" ฉันรักเธอ" แต่ใช้เวลาตลอดชีวิตในการแสดงให้เห็นว่า รักมากเพียงไร?
The essential sadness is to go through life without loving. But it would be almost equally sad to leave this world without ever telling those you loved that you love them.
ความเศร้าที่สำคัญคือการใช้ชีวิตโดยปราศจากความรัก แต่มันคงจะเศร้าพอๆกันที่จะจากโลกนี้ไปโดยไม่ได้บอกคนที่คุณรักว่า "คุณรักพวกเค้า"
A man falls in love through his eyes, a woman through her ears.
ผู้ชายตกหลุมรักทางตา แต่ผู้หญิงน่ะ ตกหลุมรักทางหู
To love is to risk not being loved in return. To hope is to risk pain. To try is to risk failure, but risk must be taken, because the greatest hazard in life is to risk nothing.
การที่ได้รักคือการเสี่ยงว่าจะไม่ได้รับความรักเป็นการตอบแทน การตั้งความหวังคือการเสี่ยงกับความเจ็บปวด การพยายามคือการเสี่ยงกับความล้มเหลว แต่ยังไงก็ต้องเสี่ยง เพราะสิ่งที่อันตรายที่สุดในชีวิตก็คือการไม่เสี่ยงอะไรเลย
When loving someone.. never regret what you do. only regret what you didn't do. เวลารักใคร..อย่าเสียใจในสิ่งที่คุณได้กระทำ จงเสียใจในสิ่งที่คุณไม่ได้กระทำ…..
หวังว่าคงชอบกันน้า

.. คำบอกรักภาษาต่าง ๆ ..

ภาษาไทย เรียกว่า ฉัน รัก คุณ
ภาษาอังกฤษ เรียกว่า ไอ เลิฟ ยู (I love you)
ภาษาพม่า เรียกว่า จิต พา เด (chit pa de)
เขมร เรียกว่า บอง สรัน โอน (Bon sro Iahn oon)
เวียดนาม เรียกว่า ตอย ยิ่ว เอ๋ม (Toi yue em)
มาเลเซีย เรียกว่า ซายา จินตามู (Saya cintamu)
อินโดนีเซีย เรียกว่า ซายา จินตา ปาดามู (Saya cinta padamu)
ฟิลิปปินส์ เรียกว่า มาฮัล กะ ตา (Mahal ka ta)
ญี่ปุ่น เรียกว่า คิมิ โอ ไอ ชิเตรุ (Kimi o ai shiteru)
เกาหลี เรียกว่า โน รุย สะรัง เฮ (No-rui sarang hae)
เยอรมัน เรียกว่า อิคช์ ลิบ ดิกช์ (Ich Liebe Dich)
ฝรั่งเศส เรียกว่า เฌอแตม (Je t''''aime)
ฮอลแลนด์ (ดัชต์) เรียกว่า อิค เฮา ฟาวน์ เยา (Ik hou van jou)
สวีเดน เรียกว่า ย็อก แอลสการ์ เด (Jag a Lskar dig)
อิตาลี เรียกว่า ติ อโม (Ti amo)
สเปน เรียกว่า เตอ เควียโร (Te quiero)
รัสเซีย เรียกว่า ยาวาส ลุยบลิอู (Ya vas Liubliu)
โปรตุเกส เรียกว่า อโม-เท (Amo-te)
จีนกลาง เรียกว่า หว่อ อ้าย หนี่ (Wo ai ni)
ตุรกี เรียกว่า เซนี เซวีโยรัม (Seni Seviyorum)

.. ช็อคโกแลตกับวันวาเลนไทน์ ..

ในวันวาเลนไทน์ที่ประเทศญี่ปุ่น ฝ่ายหญิงนิยมที่จะมอบช็อคโกแลตให้กับฝ่ายชาย (ส่วนผู้ชายจะมอบของขวัญตอบแทนให้กับผู้หญิงในวันที่ 14 มีนาคม ซึ่งเรียกวันนั้นว่า White Day หรือ วันสีขาว) ความนิยมการมอบชอคโกแลตนั้นเกิดขึ้นมาจากการใช้เครื่องมือทางการตลาดของบริษัทผลิตชอคโกแลต ผู้หญิงญี่ปุ่นถูกกระตุ้นให้บอกรักอย่างชัดเจนกับผู้ชายโดยการมอบชอคโกแลตและของขวัญชนิดอื่นในวันที่ 14 กุมภาของทุกปี

ร้านขายของชำ ห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อจะขายช็อคโกแลตที่หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็น ช็อคโกแลตที่ผลิตในประเทศหรือนำเข้ามาจากต่างประเทศ มากกว่าครึ่งหนึ่งของยอดขายช็อคโกแลตทั้งปีนั้น จะมาจากช่วงวันวาเลนไทน์ เหตุก็เพราะผู้หญิงแดนอาทิตย์อุทัยจะซื้อชอคโกแลตเพื่อแจกให้กับทั้งเพื่อนร่วมงาน หัวหน้า เพื่อนชาย พี่ชาย คุณพ่อ สามี แฟน และผู้ชายที่เธอรู้จักและมีความยินดีที่จะมอบให้

ช็อคโกแลตที่มอบให้กับผู้ชายที่เธอไม่ได้หลงรัก ถูกเรียกว่า “giri-choco” (แปลว่า ช็อคโกแลตที่ให้ตามหน้าที่ หรือ ชอคโกแลตตามมารยาท) เช่น ช็อคโกแลตที่มอบให้กับเพื่อนร่วมงาน หรือกับหัวหน้างานเป็นต้น

ผู้ชายส่วนใหญ่จะรู้สึกอับอายอย่างมาก ถ้าพวกเขาไม่ได้รับช็อคโกแลตในวันนี้ ผู้หญิงจึงพยายามมอบ giri-choco กับผู้ชายที่รู้จักทุกคน เพียงเพื่อไม่ให้ผู้ชายต้องมีความรู้สึกว่าตัวเขานั้นไม่ได้รับการใส่ใจ ราคาโดยเฉลี่ยของ giri-choco ตกประมาณอันละ 100 – 300 เยน

ผู้หญิงบางกลุ่มมีแนวโน้มที่จะให้ของขวัญพิเศษกับคนที่ตนรัก เช่น เนคไทค์ และเสื้อผ้าควบคู่ไปกับช็อคโกแลตด้วย ช็อคโกแลตประเภทนี้จะเรียกว่า "honmei-choco." (แปลว่า ผู้ชนะที่คาดหวังไว้ prospective winner) Honmei-choco จะมีราคาที่แพงกว่า giri-choco และบางครั้งจะเป็นช็อคโกแลตทำเอง ซึ่งผู้ชายที่ได้รับนั้นถือว่าโชคดีมาก

ช็อคโกแลตญี่ห้อดังของญี่ปุ่นได้แก่ Glico, Meiji และ Morinaga แต่ผู้ชายบางคนมักจะพอใจกับช็อคโกแลตทำเองมากกว่า เพราะมันจะแสดงออกถึงความตั้งใจของคนทำนั่นเอง

วันศุกร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

Valentine's Day


Valentine's Day or Saint Valentine's Day is a holiday celebrated on February 14 by many people throughout the world. In the West, it is the traditional day on which lovers express their love for each other by sending Valentine's cards, presenting flowers, or offering confectionery. The holiday is named after two among the numerous Early Christian martyrs named Valentine. The day became associated with romantic love in the circle of Geoffrey Chaucer in the High Middle Ages, when the tradition of courtly love flourished.

An alternative theory from Belarus states that the holiday originates from the story of Saint Valentine, who upon rejection by his mistress was so heartbroken that he took a knife to his chest and sent her his still-beating heart as a token of his undying love for her. Hence, heart-shaped cards are now sent as a tribute to his overwhelming passion and suffering. [1]

The day is most closely associated with the mutual exchange of love notes in the form of "valentines." Modern Valentine symbols include the heart-shaped outline, doves, and the figure of the winged Cupid. Since the 19th century, handwritten notes have largely given way to mass-produced greeting cards.[2] The sending of Valentines was a fashion in nineteenth-century Great Britain, and, in 1847, Esther Howland developed a successful business in her Worcester, Massachusetts home with hand-made Valentine cards based on British models. The popularity of Valentine cards in 19th-century America was a harbinger of the future commercialization of holidays in the United States.[3]

The U.S. Greeting Card Association estimates that approximately one billion valentines are sent each year worldwide, making the day the second largest card-sending holiday of the year behind Christmas. The association estimates that women purchase approximately 85 percent of all valentines.[4]

วันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ชมตึกไอเดียแปลกของญี่ปุ่น สร้าง"ถนน"ผ่าน"ตัวอาคาร"

ที่ญี่ปุ่น ตึก"The Gate Tower Building" ในเมืองโอซาก้า เป็นตึกที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใคร เหมือนเป็นที่เลื่องลือในฐานะตึกที่ถูกสร้างให้"ถนน"ผ่านชั้นตัวตึกได้ เป็นสถาปัตยกรรมที่ใครเห็นรับรองต้องทึ่ง และอาจต้องยกนิ้วให้


สถาปัตยกรรม"ทางผ่านตึกอาคาร" อันแสนจะฮือฮาเรื่องนี้เริ่มตั้งแต่ปี 1983 โดยตึกเก่ากำลังถูกสร้างใหม่ แต่เจ้าหน้าที่วางผังเมืองตัดสินใจจะสร้างทางผ่านตัวตึกแทน และมีการเจรจากันเป็นเวลาหลายปี ก่อนที่จะเจ้าของที่ดินและกลุ่มต่าง ๆที่เกี่ยวข้องจะบรรลุข้อตกลงให้ทางหลวงสามารถสร้างผ่านตึกอาคารใหม่นี้ ซึ่งสูง 16 ชั้น โดยทางผ่านตึกอาคารอยู่ตรงชั้น 5 - ชั้น 7


ส่วนระยะเวลาการสร้างนั้น เริ่มตั้งแต่ปี 1989 ก่อนเสร็จสิ้นในปี 1992