วันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2552

ชมภาพขำๆ “โอบามา” ย่องเข้าหน้าต่างแทนประตู!

บารัค โอบามา เดินจะเดินผ่านหน้าต่างเข้าห้องทำงานรูปไข่
เดลินิวส์ - ดูเหมือนว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ ยังไม่คุ้นเคยกับเท่าเนียบขาวดีนัก ในระหว่างขากลับเข้าห้องทำงานรูปไข่ ประธานาธิบดี โอบามา ถึงได้เดินไปบานหน้าต่าง แทนที่จะเดินไปที่ประตู ซึ่งห่างจากเขาไปด้านขวาเพียงไม่กี่ก้าว เมื่อวันอังคาร (27) ที่ผ่านมา

เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ ขอนำภาพมาให้ชมกัน พร้อมกับภาพที่ครั้งหนึ่ง ประตูก็ไม่ได้เปิดอย่างอัตโนมัติให้แก่ออดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ผู้ซึ่งกำลังต้องการเดินออกจากห้อง หลังแถลงข่าวในกรุงปักกิ่ง แต่กลับพบว่าประตูนั้นล็อค และเขาก็ทำท่าดึงประตูตลกๆ อย่างที่เห็นกัน

บุชพยายามจะดึงประตูออก

อ่านขำๆแล้วกันน้า

วันจันทร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2552

ลินซ์ เมืองแห่งวัฒนธรรมยุโรป หรือจักรวรรดินาซี


ชื่อของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ น่าจะเป็นชื่อสุดท้าย ที่จะถูกเลือกมาใช้เป็นตัวชูโรง ส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่ปรากฏว่าชื่อของผู้นำเผด็จการพรรคนาซี

กลายเป็นไฮไลต์ที่เมืองลินซ์แห่งออสเตรีย ซึ่งได้รับการเลือกให้เป็นเมืองหลวงทางวัฒนธรรมของยุโรปของปีนี้ นำมาใช้โปรโมทวัฒนธรรมของเมือง

ฮิตเลอร์ใช้ชีวิตวัยเด็กอยู่ที่ลินซ์เป็นเวลา 9 ปี แม้ว่าเขาจะเกิดที่เมืองเบราเนา ทางชายแดนของออสเตรีย แต่ลินซ์เป็นเมืองที่ฮิตเลอร์รักมาก เขาคิดแผนอลังการที่จะสร้างเมืองบนแม่น้ำดานูบให้เป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่แห่ง จักรวรรดินาซี ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโรงแรมระดับห้าดาวที่เตรียมตั้งชื่อว่า "อดอล์ฟ ฮิตเลอร์" หรือหอระฆังสูงขนาด 162 เมตรเพื่อใช้เป็นที่เก็บศพของพ่อแม่ของเขา

เขาฝันที่จะสร้างพิพิธภัณฑ์ฟูเฮอร์ที่มีความสูงถึง 1,100 เมตร และเป็นสถานที่จัดแสดงผลงานศิลปะจำนวนถึง 16 ล้านชิ้น ซึ่งส่วนมากเป็นของสะสมของชาวยิว แต่ฮิตเลอร์ไม่สามารถทำฝันทั้งหมดให้เป็นจริงได้

เทศบาลเมืองลินซ์ อาศัยจังหวะที่เมืองได้รับเลือก ให้เป็นเมืองหลวงทางวัฒนธรรมของยุโรป ในการใช้ประโยชน์จากผู้นำนาซี นักท่องเที่ยวต่างแดน รวมไปถึงคนท้องถิ่นได้รับเชิญให้ไปสำรวจจักรวรรดินาซีที่ยังหลงเหลืออยู่ใน ลินซ์

มีการเตรียมออดิโอ ไกด์ให้นักท่องเที่ยวสามารถรับฟังเสียง ของผู้รอดชีวิตที่กำลังถูกนำไปที่ค่ายกักกันนาซีมาเธาเซน-กูเซน นักท่องเที่ยวยังจะได้ชมนิทรรศการที่ชื่อว่า "The cultural capital of the Fuehrer" หรือ เมืองวัฒนธรรมของผู้นำนาซี มีการนำเอกสารแผนงานของฮิตเลอร์ที่หวังจะสร้างลินซ์ให้เป็นเมืองศิลปะเทียบ เท่ากับคู่แข่งอย่างปารีส เวียนนาและเบอร์ลินมาแสดงด้วย นอกจากนี้ยังมีการพาทัวร์โรงงานผลิตอาวุธสมัยนาซี และจัตุรัสกลางเมือง

"เมื่อคุณมาถึงลินซ์ คุณจะได้พบกับบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับฮิตเลอร์แน่ๆ เราจะไม่ซุกเรื่องของเขาไว้ใต้พรมหรอก" อูริค ฟุคส์ ผู้ช่วยผู้จัดการของโครงการนี้กล่าว

มาร์ติน เฮลเลอร์ ผู้อำนวยการด้านศิลปะแห่งเมืองลินซ์ กล่าวว่า เราต้องการสะท้อนให้เห็นว่าความทะเยอทะยานทางการเมืองและวัฒนธรรมมันไปด้วย กันได้อย่างไรในช่วงของจักรวรรดินาซี การพูดถึงวัฒนธรรมก็หมายถึงการพูดถึงการเมืองนั่นแหละ

วันพุธที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2552

คำทำนายชาวจีน

เรื่องราวความรัก

"คำทำนายชาวจีน ห้ามแอบดูก่อนเฉลย ลองมาเล่นกันดูนะ

"มันเป็นเกมที่มหัศจรรย์ ทำตามคำบอกสั่งที่บอก แต่ห้ามโกง คำทำนายของชาวจีน ใช้เวลา 3 นาที ลองทำแล้วคุณจะนึกสนุกคำอธิฐานของคนที่ส่งเมลนี้ให้คุณจะเป็นจริงภายใน 10นาทีหลังจากที่คุณอ่านเมลนี้แต่ห้ามโกงงงง !!!!!!!

ห้ามอ่านเฉลย คุณแค่ทำตามที่บอกมันใช้เวลาเกือบประมาณ 3 นาที - แต่มันคุ้มค่าที่ลองทำอย่างแรกนำปาก@ละกระดาษมาเป็นอุปกรณ์เวลาคุณเลือกชื่อของคนคนหนึ่ง ต้องมั่นใจว่าเป็นคนรู้จักและทำตามความคิดครั้งแรกของคุณ !!!!!!เลือนลงมาทีละครั้ง - ห้ามอ่านก่อน ไม่งั้นคุณจะหมดสนุก

1.เขียนหมายเลขข้อทั้งหมด 11 ข้อ

2. จากนั้น ข้างๆเลข 1 กับ 2 เขียนเลข 2 ตัวที่คุณต้องการ ลงไป

3. ข้างเลข 3 และ 7 เขียนชื่อคน 2 คนที่เป็นเพศตรงข้ามกับคุณ (ของชาวเราผมขอยกเว้นเป็นเพศเดียวกันได้)ห้ามดูคำเฉลย ไม่งั้นมันจะออกมาไม่ตรง

4. เขียนชื่อใครก็ได้ที่เป็นเพื่อน หรือ คนในครอบครัวคุณ ในช่องเลข 4 , 5 และ 6 ห้ามโกง !!!!!!! ไม่งั้นคุณจะเสียใจที่คุณทำไป

5. เขียนชื่อเพลงลงในข้อ 8 , 9 ,10 และ 11

6. สุดท้ายยยยยยยอธิฐานซะอย่าเพิ่งดู นะ อ่านก่อน ขอร้องหล่ะ อยากให้ดู จริง ๆ.

วันอังคารที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2552

เรียนรู้วัฒนธรรมคนสิงคโปร์

ถ้านึกถึงคนสิงคโปร์ เชื่อว่าเรื่องอันดับต้นๆ ที่ทุกคนนึกถึงก็คือความสะอาดใช่ไหมคะ? ที่บอกว่าห้ามถ่มน้ำลายหรือคายหมากฝรั่งตามที่สาธารณะบ้าง อืม... แล้วถ้าเรามีโอกาสได้ไปที่สิงคโปร์ ยังมีเรื่องใดบ้างที่เราควรระวังอีกบ้างนะ? วันนี้มีเรื่องราวของคนสิงคโปร์มาฝากกันค่ะ ไปหาคำตอบกันเลย^^

การสูบบุหรี่

ถ้าพูดถึงเรื่องการสูบบุหรี่ ที่สิงคโปร์มีกฎห้ามสูบบุหรี่ในรถขนส่งมวลชน พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด ลิฟท์ โรงละคร โรงภาพยนตร์ ร้านอาหารติดแอร์ ร้านอาหารไม่ติดแอร์ ศูนย์อาหาร ร้านทำผม ซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า และสถานที่ราชการ เพื่อเป็นการปรับปรุงบรรยากาศยามค่ำคืน จึงมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการสูบบุหรี่ในสถานบันเทิง ตอนนี้มีกฎห้ามสูบบุหรี่ในผับ ดิสโก้ ร้านคาราโอเกะ และไนท์สป็อตทุกแห่งแล้ว เว้นแต่จะมีห้องสำหรับสูบบุหรี่หรือมุมสูบบุหรี่ที่ได้รับอนุญาตแล้ว ผู้ฝ่าฝืนอาจเสียค่าปรับเป็นจำนวนถึง 1,000 เหรียญสิงคโปร์ หรือเทียบเป็นเงินไทยประมาณ 23,000 บาท

การให้ทิป

การให้ทิปไม่ใช่ธรรมเนียมปฏิบัติของโรงแรมและร้านอาหารส่วนใหญ่ในสิงคโปร์ เนื่องจากสถานที่เหล่านี้ได้เก็บค่าบริการไปแล้ว 10% ในบิลของลูกค้า การให้ทิปไม่ใช่วิถีชีวิตของชาวสิงคโปร์และมีข้อห้ามการให้ทิปที่สนามบินอีกด้วย

การแต่งกาย

สิงคโปร์มีสภาพอากาศอบอุ่นชื้นตลอดทั้งปี มีอุณหภูมิเฉลี่ยต่อหนึ่งวันอยู่ระหว่าง 24 ถึง 31 เซลเซียส ชุดที่สวมใส่ประจำวันควรเป็นเสื้อผ้าสำหรับฤดูร้อนที่เบาสบายและทำจากเส้นใยธรรมชาติอย่างเช่นผ้าฝ้าย เพื่อนๆ สามารถใส่ชุดลำลองได้ในเกือบทุกสถานการณ์และทุกโอกาส แต่บางสถานที่อาจต้องใช้ชุดที่เป็นทางการ ยังไงก็ควรตรวจสอบล่วงหน้าเกี่ยวกับระเบียบการแต่งกายไว้บ้างก็ดีค่ะ

ดอกไม้ไฟ

ปัญหานี้พี่แก้มคิดว่าคงไม่มีใครขนดอกไม้ไฟไปสิงคโปร์แน่ๆ ใช่มั้ยคะ 555+ แต่รู้ไว้ก็ดีเหมือนกัน ที่สิงคโปร์ถ้าหากใครเก็บรักษา ครอบครอง เป็นเจ้าของ เล่น หรือแจกจ่ายดอกไม้ไฟที่เป็นอันตราย (อาทิเช่น ประทัด จรวด หรือดอกไม้ไฟประเภทอื่นๆ) จะต้องเสียค่าปรับไม่เกิน SGD 5,000 (ประมาณ 118,000 บาท) หรือถูกจำคุณไม่เกินสองปี หรือทั้งจำทั้งปรับ

สามล้อถีบ ถ้าหากเพื่อนๆ อยากเที่ยวชมถนนในสิงคโปร์ในแบบที่แตกต่าง การนั่งสามล้อถีบก็ถือเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งค่ะ แต่เพื่อนๆ ต้องจำไว้ว่าไม่ควรโบกรถสามล้อที่วิ่งอยู่ตามถนน ถ้าทำเช่นนั้น เพื่อนๆ ควรแน่ใจว่าได้ตกลงราคาค่าโดยสารก่อนใช้บริการแล้ว อย่างไรก็ตาม มีทัวร์สามล้อโดยผู้ให้บริการทัวร์รายใหญ่ที่สามารถใช้บริการได้

สกุลเงิน

นอกจากดอลลาร์สิงคโปร์แล้ว ดอลลาร์สหรัฐ ออสเตรเลีย และบูรไน รวมถึงเงินเยนและปอนด์อังกฤษก็เป็นที่ยอมรับในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่เกือบทุกแห่ง

น้ำดื่ม

เรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญนะคะ เพื่อนๆ สามารถดื่มน้ำจากก๊อกน้ำประปาในสิงคโปร์ได้อย่างปลอดภัย แต่ถ้าชอบน้ำแร่ใส่ขวดแล้วล่ะก็ เพื่อนๆ ก็สามารถหาซื้อได้จากซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านของของชำใกล้ตัวคุณ (จริงๆ บ้านเราก็ดื่มได้ใช่ไหม แต่ยังไงก็ไม่กล้าอยู่ดี 555+)
นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นนะคะ เพื่อนๆ

วันศุกร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2552

"ซัมเมอร์บรีซ"ม้าหางยาวที่สุดในโลก


"ซัมเมอร์บรีซ" ชื่อน่ารักๆ ที่แปลว่า "สายลมแห่งฤดูร้อน" เป็นเจ้าของตำแหน่ง "ม้าหางยาวที่สุดในโลก" คือยาวถึง 12 ฟุต 6 นิ้ว หรือ 3.75 เมตร

"ซัมเมอร์บรีซ" อายุ 11 ปี อาศัยอยู่ที่ "ฮูฟ ปรินซ์ ฟาร์ม" ของน.ส.คริสตัล โซชา อายุ 2 6 ปี ที่เมืองออกัสตา รัฐแคนซัส สหรัฐอเมริกาคริสตัล กล่าวว่า "ตอนแรกเกิดหางของซัมเมอร์บรีซก็เป็นปกติดี แต่เมื่อเริ่มโตขึ้น หางกลับยาวขึ้นเรื่อยๆ ฉันต้องสางและสระหางให้ทุกๆ 2 เดือน แต่ละครั้งใช้เวลานาน 3 ชั่วโมง เธอเหมือนก

มีการประกวดเครางามด้วยหรือนี่!!

เป็นการประกวดหนวดเคราสวยงามจากต่างประเทศ เห็นหนวดเคราของผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนแล้ว มีคำถามเกิดขึ้นในหัวเยอะเลย... เขาไว้กันนานไหม แล้วเวลากินข้าวจะเลอะหนวดไหมเนี่ย?

หนุ่มๆ หนวดเครางามกว่า 250 ชีวิต ทั้งจากอังกฤษ, สหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นๆ ทั่วโลก เข้าร่วมชิงชัยตำแหน่งชายที่มีหนวดเคราสวยงามที่สุดในงานประกวด “เดอะ เวิลด์ เบียร์ด แอนด์ เมิสแทช แชมเปี้ยนชิป 2007” (the World Beard and Moustache Championships ) ซึ่ง2ปีที่แล้วจัดขึ้นที่ The Brighton Centre เมือง Brighton ประเทศอังกฤษโดยการแข่งขันจะมีขึ้นในปีนี้ด้วยที่ Alaska ประเทศเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งประเทศต่างๆ ทั่วโลกจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ

วันอังคารที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2552

เที่ยวทั่วเนเธอร์แลนด์ผ่าน"มาดูโรดัม"

หากคุณมีเวลาแค่ครึ่งวันในการที่จะออกเดินทางเที่ยวให้ทั่วยังสถานที่ท่อง เที่ยวต่างๆ ในประเทศที่คุณเลือกไปเที่ยว คุณคิดว่าจะทำได้ไหม??







ถ้าใครคิดว่าทำยังไง ก็คงจะทำไม่ได้ เพราะว่าจะมีที่เที่ยวที่ไหนในโลก ที่จะสามารถให้เราใช้เวลาอันน้อยนิด แต่กลับจะเที่ยวได้ทั่วประเทศ คงจะไม่มีอยู่จริง!! อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจเด็ดขาดขนาดนั้น เพราะว่าฉันกำลังจะพาคุณไปเที่ยวให้ทั่วประเทศเนเธอร์แลนด์ ดินแดนแห่งกังหันลม รองเท้าไม้ และทุ่งดอกทิวลิป ได้ในเวลาระยะเวลาอันสั้น แค่ไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถเที่ยวไปได้ทั่วยังสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังมากมาย ในเนเธอร์แลนด์

ด้านหน้าทางเข้าเมืองจำลองมาดูโรดัม เนเธอร์แลนด์
ถ้ายังไม่เชื่อก็ต้องตามมากันเลย เพราะเพียงแค่คุณมาเที่ยวที่ เมืองจำลอง "มาดูโรดัม" (The miniature city of Madurodam) ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของกรุงเฮก เพียงมาที่นี่ที่เดียวก็จะได้เที่ยวทั่วเนเธอร์แลนด์เลยจริงๆ เพราะที่นี่เป็นเหมือนเมืองเนเธอร์แลนด์จำลองที่เล็กที่สุด แต่กลับมีสิ่งที่น่าสนใจ และน่าเที่ยวเป็นอย่างมาก

แต่ก่อนที่เราจะเดินทางไปเที่ยวเมืองจำลองมาดูโรดัมกัน มาทำความรู้จักกับประวัติความเป็นมาของเมืองนี้กันสักหน่อย เพราะว่ามีเรื่องราวที่น่าสนใจเอามากๆ โดยเมืองมาดูโรดัมแห่งนี้ เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ปีค.ศ. 1952 ซึ่งที่นี่ถูกสร้างขึ้นมาก็ด้วย เหตุผล 2 ประการด้วยกัน คือ เพื่อเป็นอนุสาวรีย์ของสงคราม และเพื่อตั้งเป็นมูลนิธิเพื่อการกุศล โดยมีผู้ริเริ่มคือ Mrs. B. Boon-van der Starp ผู้ที่ต้องการหาเงินเข้ากองทุนการกุศลที่เขาได้ช่วยเหลืออยู่

ตึกราบ้านช่องอันสวยงามตามสไตล์ชาวเนเธอร์แลนด์มีให้ชมในมาดูโรดัม

และอีกหนึ่งผู้ร่วมริเริ่มสร้างด้วยก็คือ Mr. and Mrs. J.M.L. Maduro ซึ่ง 2 คนนี้มีความต้องการที่จะสร้างอนุสาวรีย์เพื่อเป็นเกียรติ และระลึกถึงลูกชายคนเดียวของที่ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคร้ายในช่วงที่เกิด สงครามโลกครั้งที่ 2 แล้วเมื่อทั้ง 2 คนได้มาเจอกับ Mrs. B. Boon-van der Starp พวกเขาจึงได้ตัดสินใจที่จะบริจาคเงินสำหรับสร้างเมืองจำลองขึ้นมา เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้แก่ลูกชายของพวกเขาแทนการสร้างอนุสาวรีย์ ทำให้เมืองจำลอง "มาดูโรดัม" เกิดขึ้นเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา และกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของเนเธอร์แลนด์ดังเช่นทุกวันนี้

เกร็ดความรู้?


ประเด็นที่สอดแทรกไว้ในเรื่องนี้คือ คุณสมบัติของการเป็นผู้นำที่สามารถเข้าไปนั่งอยู่ในใจมวลชนได้ โดยผ่านตัวละครหลักคือ ลีซาน ซึ่งต่อมาเมื่อเขาได้ขึ้นเป็นกษัตริย์คือ พระเจ้าจองโจ พระองค์ก็ได้ทรงปฏิรูปและทำทุกอย่างเพื่อพัฒนาประเทศของพระองค์ด้วยความตั้งใจที่ว่า “ทรงอยากเป็นพระราชาที่ดีของประชาชนและทรงปรารถนาอย่างยิ่งที่จะให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น” ซึ่งได้มีคำพูดของตัวละครในตอนท้ายของเรื่องว่า ลีซาน :
I want to be a good king of them
ข้าอยากเป็นพระราชาที่ดีของพวกเขา
I want to make a better life for my people who sweat and toil in my land
ข้าอยากทำให้ประชาชนของข้าผู้มีชีวิตที่แร้งแค้นมีชีวิตที่ดีขึ้น
I want them to live happy lives without worry
ข้าอยากให้พวกเขามีชีวิตที่ดี มีชีวิตที่ปราศจากความกังวลใดๆ
I will make certain that their blood and sweat are not shed for naught
ข้าจะไม่ให้เลือดและหยาดเหงื่อของพวกเขาไร้ค่า
I will give them a world without corruption or lies
ข้าจะมอบโลกที่ปราศจากการทุจริตและการโป้ปดแก่พวกเขา
I will create a world that does not have hunger, discrimination, nor worry
ข้าจะสร้างโลกที่ไม่มีคนที่หิวโหย การแบ่งแยก หรือ ความกังวล
I want to give my people everything I can in my power
ข้าอยากให้ทุกสิ่งทุกอย่างแก่พวกเขาถ้าข้าให้ได้
I want them to have only what is the most precious, and the finest things in life
ข้าอยากให้พวกเขาได้มีสิ่งที่ดีที่สุด เยี่ยมที่สุดในชีวิตของพวกเขา

แทซู (องค์ครักษ์และพระสหายสนิทของพระเจ้าจองโจ) :
....ข้าอยากบอกว่าประชาชนของพระองค์จะสืบสานพระปณิธานของพระองค์ วันหนึ่งโลกจะรับรู้ความฝันของพระองค์และวันหนึ่งประชาชนของพระองค์จะมีชีวิตดังที่พระองค์ต้องการให้พวกเขาเป็น

วันเสาร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2552

วัฒนธรรมต่างประเทศ2

การนั่งไขว่ห้าง

ชาวอาหรับถือว่าเป็นกิริยาที่น่ารังเกียจมาก ที่นั่งยื่นเท้าข้างหนึ่งไปข้างหน้าต่อหน้าคู่สนทนา เท้าควรวางราบไปกับพื้นทั้งสองข้างจึงจะเป็นการสุภาพ

การให้นามบัตร

การพิมพ์นามบัตร นามบัตรที่ดีไม่ควรพิมพ์อักษรย่อ ด้านหลังของบัตรควรพิมพ์รายละเอียดที่ติดต่อได้เป็นภาษาอังกฤษ การพิมพ์ยศหรือตำแหน่งเป็นเรื่องที่ควรกระทำเพราะจะเป็นที่ประทับใจแก่ผู้ที่ได้รับ เมื่อจะมอบนามบัตรให้ผู้ใดไม่ควรใช้มือซ้าย ในประเทศญี่ปุ่นเมื่อจะมอบนามบัตรให้ใคร เป็นธรรมเนียมที่จะต้องถือด้วยมือทั้งสองข้างเมื่อจะมอบให้

การสนทนาด้วยเรื่องทั่ว ๆ ไป

เป็นหัวข้อที่ควรกระทำก่อนสนทนาเรื่องของธุรกิจอย่างจริงจังชาวญี่ปุ่นถือเป็นธรรมเนียมที่ต้องปฏิบัติให้ความรู้สึกที่ดีโดยนิยมดื่มน้ำชากันก่อนวกเข้าหาเรื่องของธุรกิจต่อไป

การสวมกอด

การสวมกอดกันเป็นเรื่องธรรมดาสามัญของชนประเทศแถบละตินอเมริกาและชาวสลาฟโดยทั่วไป เช่นชายกอดชาย หญิงกอดหญิง เป็นรูปแบบแสดงความยินดีต่อกันเปรียบได้กับการสัมผัสมือของชาวตะวันตก อย่างไรก็ตามธรรมเนียมดังกล่าวนี้หากเป็นชาวต่างชาติอื่น ๆการจะกระทำกิริยาดังกล่าวต้องใคร่ครวญอย่างรอบคอบและดูความเหมาะสมด้วย
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆ นะคะ มารยาทเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นของขนชาติใดก็ตาม เมื่อเราพบปะกับผู้คนเชื้อชาติต่างๆ เราก็ควรปฏิบัติตัวให้เหมาะสม ไม่สร้างความลำบากใจเมื่อพบกัน ^^ Happy New Year ค่ะ

วัฒนธรรมต่างประเทศ1

เพื่อนๆคะการที่เรารู้วัฒนธรรมของแต่ละประเทศนั้นเป็นสิ่งที่ดี และทำให้เรามีมุมมองที่กว้างขึ้นด้วยนะคะและเป็นประโยชน์แก่ตัวเรา โดยเฉพาะศิลป์-ภาษา
การสัมผัสมือ
ชาวอาหรับ ชาวสเปนหรืออเมริกาใต้ และชาวกรีซ นิยมสัมผัสมือหลายๆ ครั้งระหว่างพบปะสนทนากัน ชาวฝรั่งเศสจะสัมผัสมือเพียงเบาๆ และรวดเร็ว และไม่นิยมสัมผัสมือกับผู้อาวุโสกว่า ชาวเยอรมันนิยมสัมผัสมือกับทุกคนทั้งเมื่อแรกพบและลาจากกัน และในการสนทนาทั่วไปที่ไม่เป็นทางการนั้น สุภาพบุรุษจะสัมผัสมือกับสุภาพสตรีได้ต่อเมื่อได้สัมผัสมือผู้อาวุโสในงานนั้นแล้ว

ระยะห่างของคู่สนทนา
ชาวอเมริกันจะยืนสนทนาห่างกันประมาณ 1 ฟุต ถึง 3 ฟุต ชาวสเปนหรือละตินอเมริกัน และชาวตะวันออกกลางจะยืนสนทนากันอย่างใกล้ชิด แต่ชาวเอเชียและอาฟริกันจะเว้นระยะห่างจากกันมาก เช่นเดียวกันกับการยืนสนทนากับสุภาพสตรี
การสัมผัส
การสนทนาโดยทั่วไปควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแตะต้อง ชาวมุสลิมถือว่ามือข้างซ้ายเป็นมือที่สกปรก ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงที่จะสัมผัสหรือแตะต้องด้วยมือข้างซ้าย
การสบสายตา
ชาวตะวันออกกลาง ชาวสเปน และชาวยุโรป นิยมมองสบตาเมื่อสนทนากัน ชาวเอเชียโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น การมองสบตาถือเป็นการไม่สุภาพและอาจทำให้คู่สนทนาไม่พอใจได้
การใช้มือ
ชาวตะวันออกกลางและชาวตะวันออกไกลถือว่าการชี้นิ้วเป็นกิริยาที่ไม่สุภาพ การผายมือควรเป็นสิ่งที่ควรกระทำมากกว่า ขณะเดียวกันการยกหัวแม่มือขึ้นถือเป็นกิริยาที่ไม่สุภาพสำหรับชาวออสเตรเลีย การใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ทำสัญลักษณ์เป็นวงกลมประเทศในแถบละตินอเมริกันถือเสมือนว่าเป็นการให้นิ้วกลางของชนอเมริกัน ในประเทศญี่ปุ่นหมายความว่า เงินทอง ในประเทศฝรั่งเศสหมายถึง ไร้สาระ

แต่ละประเทศก็มีธรรมเนียมนิยมที่มีเอกลักษณ์และแตกต่างกันออกไปนะคะ น่าสนใจๆ เลยทีเดียว ^^