1. "สงครามมะเขือเทศ" กลายเป็นเทศกาลที่มีชื่อเสียงที่สุดงานหนึ่งของโลก ในหลายเมืองของในสเปนจะจัดงาน"ลาโทมาติน่า" แต่ที่โด่งดังที่สุดก็ที่เมืองบูญอลในวันพุธสุดท้ายของเดือนสิงหาคมของทุกปี ประกอบไปด้วยการแสดงดนตรี การจุดพลุ ที่สำคัญมีมะเขือหนักกว่า 300,000 ปอนด์ถูกผู้ร่วมงานละเลงปาใส่กันอย่างสนุกสนาน
3. เมืองซอนกกายาวิ ประเทศฟินแลนด์เป็นสถานที่ "แข่งขันอุ้มเมียชิงแชมป์โลก" ในประจำเดือนกรกฎาคมของทุกปี การแข่งขันนี้เพิ่งเริ่มขึ้นในทศวรรษ 1990 แต่คนท้องถิ่นบอกตลกๆ ว่ามันเริ่มมาชั่วนาตาปีแล้ว เพราะเมื่อก่อนผู้ชายจะขโมยผู้หญิงจากหมู่บ้านอื่นมาเป็นศรีภรรยา วันนี้รางวัลไม่ใช่ภรรยาและเป็นเบียร์น้ำหนักเท่าตัวภรรยาของพวกเขา
4. ในเมืองเล็กๆ ชื่ออีเวรีย ประเทศอิตาลี ไม่ใช่การปามะเขือเทศแต่เป็นสงครามปาผลส้ม ระหว่างงานคาร์นิวาล 3 วันจัดขึ้นในช่วงถือศีลบวช ชาวบ้านราว 3,000 คนมารวมตัวกันที่ลานกลางเมืองที่มีประชากรไม่ถึง 25,000 คนนี้ เล่ากันว่า การปาส้มแป็นการรำลึกถึงการสู้รบต่อต้านจักรพรรดิผู้ข่มเหงกดขี่ในศตวรรษที่ 12 ผู้ร่วมงานมารวมตัวกันตามถนนรอคอยขบวนกลุ่มอาสาสมัครเป็นศัตรู ซึ่งใส่ชุดอัดนวมและหมวกป้องกันมาบนรถลาก ขณะที่ผู้ชมจะสวมหมวกหรือผ้าพันคอสีแดงเปป็นสัญลักษณ์ว่าตัวเองไม่ใช่นักรบ
5. ในชนบทอันเงียบสงบและงดงามของอังกฤษ การแข่งกันเก็บชีสถูกจัดขึ้นในทุกเดือนพฤษภาคม ผู้ท้างชิงไถลและล้มลุกคลุกคลานจากเขาที่สูงชันเพื่อไล่ล่าชีสแห่งเมืองกลอสเตอร์หนัก 8 ปอนด์และทำเป็นรูปวงล้อ ผู้แข่งขันต้องเก็บชีสที่ปล่อยลงจากเนินเขาและมีความเร็ว 70 ไมล์ต่อชั่วโมงให้ได้ก่อนที่ชีสจะตกลงไปตีนเขา เชื่อว่าประเพณีย้อนไปในอดีตเมื่อผู้คนในอดีตฉลองเวลาที่พระอาทิตย์เข้าใกล้เส้นศูนย์สูตรมากที่สุด โดยวงล้อชีสนั้นเป็นสัญลักษณ์ของพระอาทิตย์นั่นเอง
6. นับตั้งแต่ทศวรรษ 1600 เมืองคาสตริลโลเดมูร์เซีย ประเทศสเปนจัด "ฉลองเทศกาลโกลาโช" ด้วยประเพณี่การกระโดดข้ามเด็กทารก เทศกาลลี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อขจัดสิ่งชั่วร้ายออกไปจากเมือง ช่วงเดียวกับเทศกาลคอร์ปุสคริสตีของชาวคริสเตียน ขบวนพาเหรดเป็นสัญลักษณ์การรวมกันของสิ่งชั่วร้ายมาในเมืองและพากพวกมันเข้าไปโบสถ์ และพื่อขับสิ่งชั่วร้ายของจากเด็กไร้เดียงสา เด็กทุกคนที่เกิดในปีที่แล้วจะถูกนำมานอนบนฟูก จากนั้นชายที่แสดงเป็นสิ่งชั่วร้าย หรือเอลโกลาโช ก็จะกระโดดข้ามฟูกนั้นเพื่อเป็นการชำระล้างสิ่งชั่วร้ายออกไปจากตัวเด็ก
7. เทศกาลหน่อไม้ฝรั่งในเมืองเอมไพร์ ในมลรัฐมิชิแกน งานนี้อุทิศแด่หน่อไม้ฝรั่งโดยเฉพาะ มิชิแกนเป็นผู้ผลิตหน่อไม้ฝรั่งมากที่สุดในสหรัฐ แต่เพราะมิชิแกนรู้จักในด้านศิลปะมากกว่าการเกษตรจึงจัดงานนี้ขึ้น ซึ่งรวมถึงกิจกรรมแปลกในทุกเดือนพฤษาภาคม มีขบวนพาเหรดแต่งตัวเป็นหน่อไม้ฝรั่ง การประกวดแต่งบทกวีหน่อไม้ฝรั่ง มีงานเลี้ยงอาหารนานาชนิดจากพืชชนิดนี้และตบท้ายด้วยเบียร์ที่ทำมาจากหน่อไม้ฝรั่งด้วย
8. เทศกาลแปลกประหลาดที่สุดของโลกไม่ใช่ของมนุษย์เท่านั้น ที่ลพบุรีของไทยเราเองก็จัดเทศบุฟเฟต์สำหรับลิงกว่า 600 ตัว9ที่อยู่ในเมืองนี้ เทศกาลนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่พระรามที่ตบรางวัลให้แห่หนุมานด้วยแผ่นดินที่กลายเป็นเมืองลพบุรี บุฟเฟต์หน้าวัดพระปรางสามยอด ประกอบไปด้วยอาหารผักผลไม้สดๆ หลายร้อยกิโลกรัม พร้อมกับไอติมและเครื่องดื่ม งานนี้กลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมในท้องถิ่นซึ่งเต็มใจอย่างยิ่งเพราะกิจกรรมนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเยือนเป็นประจำทุกปี
ที่มาของเทศกาลนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด เริ่มมาตั้งแต่ปี 1944 หรือไม่ก็ปี 1945 บ้างก็บอกว่าเกิดขึ้นเพราะเป็นการแย่งชิงอาหารในหมู่เพื่อนๆ การแสดงความไม่พอใจเมื่อนักเล่นดนตรีเล่นไม่ได้เรื่อง หรือกระทั่งเป็นการชุมนุมต่อต้านนายพล ฟรันซิสโก ฟรังโก ผู้นำจอมเผด็จการ
2. เทศกาลยูเอฟโอ จัดขึ้นช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปีในเมืองโรสเวลล์ มลรัฐเม็กซิโกของสหรัฐฯ ซึ่งมีแฟนยูเอฟโอจากทั่วโลกจะมาชุมนุมกัน มีการประกวดแต่งชุดเอเลี่ยน การจะดอกไม้ไฟ รวมทั้งการเสวนาของแฟนพันธุ์แท้เรื่องยูเอฟโอ เมืองโรสเวลล์กลายเป็นศูนย์กลางของคนที่เชื่อว่ามีมนุษย์นอกโลก หลังจากในปี 1947 พบซากยานลึกลับในเมืองนี้
3. เมืองซอนกกายาวิ ประเทศฟินแลนด์เป็นสถานที่ "แข่งขันอุ้มเมียชิงแชมป์โลก" ในประจำเดือนกรกฎาคมของทุกปี การแข่งขันนี้เพิ่งเริ่มขึ้นในทศวรรษ 1990 แต่คนท้องถิ่นบอกตลกๆ ว่ามันเริ่มมาชั่วนาตาปีแล้ว เพราะเมื่อก่อนผู้ชายจะขโมยผู้หญิงจากหมู่บ้านอื่นมาเป็นศรีภรรยา วันนี้รางวัลไม่ใช่ภรรยาและเป็นเบียร์น้ำหนักเท่าตัวภรรยาของพวกเขา
ผู้ชายจะแบกภรรยาของตัวเอง หรือของเพื่อนบ้าน หรืออาจเป็นคู่รัก เทคนิกการอุ้มมีหลายวิธี แต่ในภาพนี้เป็นเทคนิคที่นิยมมากที่สุด และก็สำเร็จมากที่สุดด้วย สถิติโลกที่รอให้ทลายคือการอุ้มผ่านสิ่งกีดขวางระยะทาง 235.5 เมตรในเวลา 55 วินาที
4. ในเมืองเล็กๆ ชื่ออีเวรีย ประเทศอิตาลี ไม่ใช่การปามะเขือเทศแต่เป็นสงครามปาผลส้ม ระหว่างงานคาร์นิวาล 3 วันจัดขึ้นในช่วงถือศีลบวช ชาวบ้านราว 3,000 คนมารวมตัวกันที่ลานกลางเมืองที่มีประชากรไม่ถึง 25,000 คนนี้ เล่ากันว่า การปาส้มแป็นการรำลึกถึงการสู้รบต่อต้านจักรพรรดิผู้ข่มเหงกดขี่ในศตวรรษที่ 12 ผู้ร่วมงานมารวมตัวกันตามถนนรอคอยขบวนกลุ่มอาสาสมัครเป็นศัตรู ซึ่งใส่ชุดอัดนวมและหมวกป้องกันมาบนรถลาก ขณะที่ผู้ชมจะสวมหมวกหรือผ้าพันคอสีแดงเปป็นสัญลักษณ์ว่าตัวเองไม่ใช่นักรบ
5. ในชนบทอันเงียบสงบและงดงามของอังกฤษ การแข่งกันเก็บชีสถูกจัดขึ้นในทุกเดือนพฤษภาคม ผู้ท้างชิงไถลและล้มลุกคลุกคลานจากเขาที่สูงชันเพื่อไล่ล่าชีสแห่งเมืองกลอสเตอร์หนัก 8 ปอนด์และทำเป็นรูปวงล้อ ผู้แข่งขันต้องเก็บชีสที่ปล่อยลงจากเนินเขาและมีความเร็ว 70 ไมล์ต่อชั่วโมงให้ได้ก่อนที่ชีสจะตกลงไปตีนเขา เชื่อว่าประเพณีย้อนไปในอดีตเมื่อผู้คนในอดีตฉลองเวลาที่พระอาทิตย์เข้าใกล้เส้นศูนย์สูตรมากที่สุด โดยวงล้อชีสนั้นเป็นสัญลักษณ์ของพระอาทิตย์นั่นเอง
6. นับตั้งแต่ทศวรรษ 1600 เมืองคาสตริลโลเดมูร์เซีย ประเทศสเปนจัด "ฉลองเทศกาลโกลาโช" ด้วยประเพณี่การกระโดดข้ามเด็กทารก เทศกาลลี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อขจัดสิ่งชั่วร้ายออกไปจากเมือง ช่วงเดียวกับเทศกาลคอร์ปุสคริสตีของชาวคริสเตียน ขบวนพาเหรดเป็นสัญลักษณ์การรวมกันของสิ่งชั่วร้ายมาในเมืองและพากพวกมันเข้าไปโบสถ์ และพื่อขับสิ่งชั่วร้ายของจากเด็กไร้เดียงสา เด็กทุกคนที่เกิดในปีที่แล้วจะถูกนำมานอนบนฟูก จากนั้นชายที่แสดงเป็นสิ่งชั่วร้าย หรือเอลโกลาโช ก็จะกระโดดข้ามฟูกนั้นเพื่อเป็นการชำระล้างสิ่งชั่วร้ายออกไปจากตัวเด็ก
7. เทศกาลหน่อไม้ฝรั่งในเมืองเอมไพร์ ในมลรัฐมิชิแกน งานนี้อุทิศแด่หน่อไม้ฝรั่งโดยเฉพาะ มิชิแกนเป็นผู้ผลิตหน่อไม้ฝรั่งมากที่สุดในสหรัฐ แต่เพราะมิชิแกนรู้จักในด้านศิลปะมากกว่าการเกษตรจึงจัดงานนี้ขึ้น ซึ่งรวมถึงกิจกรรมแปลกในทุกเดือนพฤษาภาคม มีขบวนพาเหรดแต่งตัวเป็นหน่อไม้ฝรั่ง การประกวดแต่งบทกวีหน่อไม้ฝรั่ง มีงานเลี้ยงอาหารนานาชนิดจากพืชชนิดนี้และตบท้ายด้วยเบียร์ที่ทำมาจากหน่อไม้ฝรั่งด้วย
8. เทศกาลแปลกประหลาดที่สุดของโลกไม่ใช่ของมนุษย์เท่านั้น ที่ลพบุรีของไทยเราเองก็จัดเทศบุฟเฟต์สำหรับลิงกว่า 600 ตัว9ที่อยู่ในเมืองนี้ เทศกาลนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่พระรามที่ตบรางวัลให้แห่หนุมานด้วยแผ่นดินที่กลายเป็นเมืองลพบุรี บุฟเฟต์หน้าวัดพระปรางสามยอด ประกอบไปด้วยอาหารผักผลไม้สดๆ หลายร้อยกิโลกรัม พร้อมกับไอติมและเครื่องดื่ม งานนี้กลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมในท้องถิ่นซึ่งเต็มใจอย่างยิ่งเพราะกิจกรรมนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเยือนเป็นประจำทุกปี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น