| ||
จีนกำลังอยู่ในยุคทองของการแต่งงาน ซึ่งสร้างผลกำไรก้อนโตแก่บรรดาธุรกิจสตูดิโอถ่ายภาพ ไปจนถึง เหมืองทองคำขาวของโลกทีเดียว แต่ก็ไม่มีที่ไหน จะรับประโยชน์ไปเต็มๆ เท่าตลาดที่อยู่อาศัย
| |||
"สามี และฉันต้องการมีบ้านของเราเองมากกว่าจะเช่าฯเหมือนเมื่อก่อน เพราะการแต่งงานคือการเริ่มต้นชีวิต และตอนนี้เรากำลังจะสร้างครอบครัว” เหมิง กล่าว
เหมิง และฝาน เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มประชากรในช่วงอายุ 20 ปี ซึ่งจะเป็นช่วงก้าวสู่ชีวิตสมรส นับจากช่วงนี้ไปจนถึงปี พ.ศ.2568
คู่สมรสใหม่เหล่านี้ ต่างมองหาบ้านหลังแรกของพวกเขา โดยมีกระแสประเมินจากกลุ่มนักวิเคราะห์ว่าคู่สมรสเหล่านี้ ต้องการที่อยู่อาศัย เป็นพื้นที่ที่คิดคำนวนรวมกันได้กว่า 450 ล้านตารางเมตรในแต่ละปี หรืออย่างคร่าวๆ ก็ราวร้อยละ 16 ของอาคารที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างในปัจจุบัน
เห มิง กับฝาน เป็นลูกหลานของพ่อแม่แห่งยุคเบบี้บูม อันเป็นยุคประชากรจีนเบ่งบานระหว่างช่วงปี 1950 และ1960 เด็กกลุ่มนี้คงจะมีมากกว่านี้ หากรัฐบาลจีนไม่ใช้นโยบายลูกคนเดียวควบคุมประชากรในปลายของทศวรรษ 70 เพื่อลดขนาดครอบครัว แต่อย่างไรก็ตามประชากรกลุ่มนี้ ก็ยังคงใหญ่กว่ากลุ่มอื่นๆ
นโยบายควบคุมประชากรที่ตกเป็นเป้าการวิพากษ์วิจารณ์นี้ ได้สร้างนิสัยการบริโภคของพวกเขา จากการเลี้ยงดูอย่างพะเน้าพะนอจากผู้ใหญ่หลายคน ทำให้กลุ่มเด็กลูกคนเดียวรุ่นนี้ จับจ่ายเงินออกจากกระเป๋าอย่างง่ายดาย ไม่ประหยัดเหมือนคนรุ่นพ่อแม่
ไม่เพียงแต่จะมีคู่แต่งงานเพิ่มมากขึ้น แต่คู่สมรสยังนิยมจัดงานวิวาห์ ซึ่งต้องเป็นไปอย่างหรูหรา จนส่งให้ธุรกิจจัดงานแต่งงานเฟื่องฟู จนปัจจุบัน มีมูลค่าถึงราว 4แสนล้านหยวน หรือประมาณร้อยละ 2.5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ตามการประมาณการอย่างเป็นทางการฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น