วันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2552


เอเจนซีส์ – ผลวิจัยพบหากหนุ่มมองสาวนาน 8.2 วินาที นั่นอาจหมายถึงรักแรกพบ ในทางกลับกัน สาวใช้เสี้ยวเวลามองหนุ่มทุกคนนานพอกัน เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ขณะที่ผลสำรวจอีกชิ้นชี้ผู้หญิงวันนี้ยังสับสนระหว่างวัตถุนิยมกับคุณค่าทางใจ

ผลศึกษาที่ตีพิมพ์อยู่ในวารสารอาร์ไคฟ์ส ออฟ เซ็กชวล บีแฮฟวิเออร์รายงานว่า หากผู้ชายมองผู้หญิงแค่สี่วินาที แปลว่าสาวคนนั้นไม่มีเสน่ห์ดึงดูดหัวใจ

กล้องที่ถูกซ่อนไว้อย่างมิดชิดคอยจับสังเกตความเคลื่อนไหวของดวงตานักศึกษา 115 คน ขณะคุยกับนักแสดงหญิง-ชาย ก่อนถูกขอให้ให้คะแนนความมีเสน่ห์ในการพูดคุยของนักแสดงเหล่านั้น

ผลปรากฏว่านักศึกษาชายจะมองลึกเข้าไปในดวงตานักแสดงหญิงที่ตัวเองเห็นว่าสวยเฉลี่ยนาน 8.2 วินาที และลดเหลือแค่ 4.5 วินาทีเมื่อมองนักแสดงหญิงที่เห็นว่ามีเสน่ห์น้อยกว่า

อย่างไรก็ตาม นักศึกษาหญิงกลับใช้เวลามองนักแสดงชายทุกคนนานพอๆ กัน

ทั้งนี้ นักวิจัยเชื่อว่าผู้ชายมักใช้การสบตาเพื่อค้นหาคู่ที่สมบูรณ์และพร้อมสำหรับการเจริญพันธุ์ ขณะที่ผู้หญิงมีความระแวดระวังมากกว่าที่จะไม่ดึงดูดความสนใจที่ไม่เป็นที่ต้องการ เพราะกลัวความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์และการต้องเป็นแม่ที่เลี้ยงลูกตามลำพัง

ขณะเดียวกัน ผลสำรวจความคิดเห็นอีกชิ้นจากกลุ่มตัวอย่างอายุ 18-34 ปี จำนวนกว่า 2,000 คน พบว่าผู้หญิงยังมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและขัดแย้งกับภาพลักษณ์ของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น 25% บอกว่าอยากเป็นผู้ชนะบนเวทีสุดยอดนางแบบแห่งอเมริกาครั้งหน้ามากกว่าคว้ารางวัลโนเบล

นอกจากนั้น ขณะที่กลุ่มตัวอย่าง 75% บอกว่าเต็มใจโกนหัวถ้าช่วยชีวิตคนแปลกหน้าได้ แต่กว่า 1 ใน 4 ยอมรับว่าพร้อมทำให้เพื่อนสนิทอ้วนตลอดชีวิต ถ้านั่นหมายความว่าตัวเองจะผอมเพรียว

สำหรับคำถามว่าจะเลือกแต่งงานกับคนรวยหรือคนหล่อ ครึ่งหนึ่งของกลุ่มตัวอย่างที่อายุ 18-24 ปี สารภาพว่ายินดีแต่งงานกับผู้ชายหน้าตาอัปลักษณ์ หากเขาคนนั้นเป็นเศรษฐีเงินถุงเงินถัง

ผลสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำให้แก่เครือข่ายทีวี ‘ออกซิเจน’ ในสหรัฐฯ ที่มีกลุ่มเป้าหมายคือหญิงสาวนั้น ยังพบว่า 88% ของผู้หญิงอายุ 18-34 ปีเต็มใจหันหลังให้โทรศัพท์มือถือ เครื่องเพชร และเครื่องสำอางเพื่อรักษามิตรภาพ

ดร.เจนน์ เบอร์แมน นักบำบัดจิตและหนึ่งในคณะกรรมการตัดสินในซีรี่ส์ใหม่ที่เตรียมออกอากาศทางเครือข่ายออกซิเจนที่ชื่อว่า ‘พริตตี้วิกเก็ต’ บอกว่าการสำรวจนี้เป็นบทพิสูจน์ที่น่าสนใจอย่างยิ่งในการจำแนกแยกแยะผู้หญิง และวิธีการที่ผู้หญิงผูกโยงภาพลักษณ์ตัวเองกับสิ่งที่คิดว่ามีค่าในชีวิต

“ผลสำรวจนี้ชี้ว่าผู้หญิงสมัยนี้มีรูปแบบผสมผสานที่ซับซ้อนระหว่างวัตถุนิยมกับการช่วยเหลือผู้อื่น การหลงตัวเองกับความรู้สึกไม่มั่นคง การจงรักภักดีกับการทำเพื่อตัวเอง เป็นการตอกย้ำภาพการแบ่งขั้วในตัวผู้หญิงอย่างชัดเจน”

ไม่มีความคิดเห็น: