วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ทายนิสัยด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษ

มาทำแบทดสอบทายนิสัยกันแต่ห้ามดูเฉลยก่อนนะ เดี๋ยวไม่แม่นเพื่อนๆลองเลือก ข้อที่ใกล้เคียงมากที่สุดนะ

1. บุคลิกภาพของคุณเป็นอย่างไร ?

(I) ชอบสันโดษ , คิดก่อนทำ , มีแรงบันดาลใจหรือความคิดจากตัวเองเป็นใหญ่

(E) ชอบเข้าสังคม , ชอบไปงานสังสรรค์ ,ทำก่อนคิด , มีแรงบันดาลใจหรือความคิดจากคน-สิ่งของ, สิ่งแวดล้อมเป็นส่วนใหญ่

2. เมื่อคุณมีข้อมูลที่ต้องพิจารณา คุณจะพิจารณาข้อมูลเหล่านั้นอย่างไร ?

(S) ดูถึงรายละเอียดของข้อมูล , ดูถึงปัญหาปัจจุบัน, ดูถึงหลักความเป็นจริง

(N) ดูถึงภาพรวมหรือข้อสรุปของข้อมูล , คาดการณ์ล่วงหน้า, ดูถึงความน่าจะเป็นที่จะเกิดขึ้น


3. คุณใช้อะไรในการตัดสินใจกับปัญหา ? (โดยสัญชาตญาณของคุณ)

(T) ใช้เหตุผลในการตัดสินใจ , ใช้หลักตรรกวิทยาความถูกต้อง, คิดถึงผลที่จะตามมาจากการตัดสินใจ (F) ใช้ความรู้สึกในการตัดสินใจ , ตัดสินใจจากความชอบ, ความต้องการ , คิดถึงความต้องการและการตอบสนองของตน

4. คุณมีวิธีการดำเนินชีวิตอย่างไร ?

(J) ชอบวางแผนในการใช้ชีวิตประจำวัน, ชอบตั้งเป้าหมาย ระยะเวลา วันที่ในการทำ, ชอบตัดสินใจ เพื่อให้จบปัญหา

(P) ยอมรับการเปลี่ยนแปลงกับสิ่งรอบตัว , ไม่ยึดติด, มีความยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ , รับฟังความคิดผู้อื่น

วิธีการ : เลือกตัวอักษรภาษาอังกฤษหน้าข้อที่เลือก แ ล้วนำมาเรียงกัน


คำเฉลย :


ISTJ The Duty Fulfiller ' ผู้สำเร็จ '

- มีสมาธิสูง , เงียบ , เป็นคนรักครอบครัว

- ละเอียด , จริงจัง และ ไว้ใจได้

- ทำงานหนัก , เจ้าระเบียบ และ มีความรับผิดชอบสูง
- อาจจะทำให้ถูกเอาเปรียบได้ เพราะความที่เขาซื้อสัตย์และเป็นที่พึ่งได้

- ไม่เก่งเรื่องของความรู้สึก

ISTP The Mechanic ' ช่างเครื่อง '

- เงียบ , ชอบผจญภัย และ กีฬา

- ชอบเสี่ย ง , เป็นตัวของตัวเอง , แก้ปัญหาเก่ง

- มองโลกในแง่ดี แต่อาจโกรธง่ายตอนเครียด

- ปกติไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรให้คนอื่นอยู่ทั้งดีและไม่ดี

ISFJ The Nurturer ' ผู้ดูแล '

- เงียบ , ใจดี , มีสติ

มีความรับผิดชอบ แก่ภาระและหน้าที่

- คิดถึงคนอื่นก่อนตัว , จำคนเก่ง

- เสียกำลังใจเมื่อถูกวิจารณ์

- ชอบเก็บความรู้สึกไว้กับตัวเอง

ISFP ?-> ?The Artist ?' ศิลปิน '

- เงียบ , ใจดี , จริงจัง และ อ่อนไหว

- ไม่ชอบการโต้แย้ง , ไม่ชอบระเบียบ

- ความคิดสร้างสรรค์ และ ไม่เหมือนใคร

- รักขอบสวยของงาม

- เข้าใจยาก , เปิดเผยตัวเองกับคนใกล้ชิดเท่านั้น

- ใช้ชีวิตอย่างจริงจัง


INFJ The Protector ' ผ ู้ป้องกัน '

- ความคิดสร้างสรรค์ , อ่อนไหว , เป็นตัวของตัวเอง

- เก่งเรื่องคน และ สถานการณ์

- เป็นคนลึกซึ้ง , ซับซ้อน , ชอบความเป็นส่วนตัว

- เ ข้าใจยาก , มีความมั่นใจในตัวเองสูง, ดื้อรั้นต่อความคิดของผู้อื่น

- ไม่ชอบการโต้แย้ง

INFP The Idealist ' นักอุดมการณ์ '

- เงียบ , ซื่อสัตย์ , ชอบอุดมการณ์

- ชอบช่วยเหลือ และ เข้าใจคนอื่น

- ไม่ชอบการโต้แย้ง- ซื่อสัตย์ต่อตนเอง

- มีความคิดสร้างสรรค์

INTJ The Scientist ' นักวิทยาศาสตร์ '

- ฉลาด . มุ่งมั่น , ไม่เหมือนใคร

- เป็นผู้นำที่ดี , มีความมั่นใจสูง , มองการณ์ไกล

- ชอบคิดคนเดียว และ ชอบอยู่คนเดียว , ชอบด่วนสรุป

- ไม่ชอบรายละเอียด , คิดว่าตนเองถูกเสมอ

- บอกความรู้สึกไม่เก่ง , จะมีปัญหากับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด

INTP The Thinker ' นักคิด '

- ความคิดสร้างสรรค์ , เป็นตัวของตัวเอง, มีเหตุมีผลและมีความสามารถสูง

- ไม่อยากถูกนำหรือนำคนอื่น , ไม่ชอบระเบียบ

- ใช้เวลาในหัวตัวเองมาก , ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

- เงียบ , ไม่ค่อยรู้ว่าคนอื่นรู้สึกยังไง

- ม ีอารมณ์ซับซ้อน , ไม่อยู่นิ่ง และ แปรปรวน


ESTP The Doer ' ผู้กระทำ '

- เป็นมิตร , ยืดหยุ่นง่าย , เข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นเก่ง

- ไม่ชอบคำอธิบาย แต่ต้องการแค่ผลลัพธ์

- ใช้ชีวิตที่สนุกสนาน จึงทำให้ผ่านไปเร็ว

- รักสนุก , สามารถทำร้ายจิตใจผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว

- ไม่ชอบเคารพกฎระเบียบ

- เบื่อง่าย


ESTJ The Guardian ' ผู้พิทักษ์ '

- มีระเบียบ , ซื่อตรง , ตรงไปตรงมา

- มีความมั่นใจในตัวเอง , มีความสามารถ . ทำงานหนัก, เป็นผู้นำ

- ชอบความปลอดภัย และ ควา มสงบสุข

- บอกความรู้สึก และ ความห่วงใยไม่เก่ง


ESFP The Performer ' ผู้แสดง '

- อยู่คนเดียวในโลกไม่ได้ , มีมนุษยสัมพันธ์ดี, รักสนุก และทำงานเป็นทีมได้ดี

- มองโลกในแง่ดี , ต้อนรับทุกคน แต่ก็เกลียดทุกคนได้เหมือนกัน

- ไม่ชอบงานประจำ , คิดมากเวลาเครียด

- รักสวยรักงาม

ESFJ The Caregiver ' นั กใส่ใจ '

- มีน้ำใจ , คนชอบ , มีสติ, มีความรับผิดชอบ

- เก่งเรื่องคน , เข้าใจ , สนใจ และ ปรับตามคนได้

- ชอบให้คนชอบ , ชอบบริการผู้อื่นก่อนตนเอง

- รักสงบ และ ความปลอดภัย , ไว้ใจได้ ,กระตือรือร้น

- อ่อนไหว , ต้องการการเห็นด้วยจากผู้อื่น


NFP The Inspirer ' ผู้มีแรงบันดาลใจ '
- มีความคิดสร้างสรรค์ , กระตือรือร้น, ยืดหยุ่น

- ต้อนรับไอเดียใหม่ ๆ เสมอ แต่จะเบื่อกับรายละเอียด

- มีมนุษยสัมพันธ์ดี , ชอบให้คนชอบ แต่ก็สามารถหลอกใช้ผู้อื่นได้ด้วย

- เป็นคนร่าเริง และชอบเป็นอิสระ



ENFJ The Giver ' ผู้ให้ '

- มีมนุษยสัมพันธ์ดีมาก , ห่วงใยความรู้สึกของผู้อื่นเสมอ

- ไม่ชอบอยู่คนเดียว , ต้องการอยู่กับผู้อื่นตลอดเวลา

- มีความสามารถที่จะทำในสิ่งที่เขาชอบหลาย ๆ อย่าง

- มีความมั่นใจในตัวเอง , เจ้าระเบียบ


ENTP The Visionary ' ผู้มีวิสัยทัศน์ '

- มีความคิดสร้างสรรค์ , ฉลาด , แ ก้ปัญหาเก่ง

- ชอบไอเดียใหม่ , ไม่ชอบทำอะไรซ้ำ ๆ

- ชอบคุย , คุยเก่ง , หัวไว

- ไม่สนใจเรื่องความรู้สึก แต่เพียงจะให้งานสำเร็จ

- บางครั้งอาจจะเคร่งครัดกับคนรอบข้าง


ENTJ The Executive ' ผู้บริหาร '

- เป็นผู้นำตั้งแต่เกิด , พูดต่อหน้าคนเก่ง, ฉลาด , มีความรู้

- เห็นความสำคัญในความรู้ และ ความสามารถ , ไม่มีความอดทนกับคนทำงานไม่เก่ง

- แก้ปัญหาเก่ง , สามารถเข้าใจปัญหาซับซ้อน

- เจ้ากี้เจ้าการ , ไม่มีความอดทน , เด็ดขาด , น่าเกรงขาม

วันพุธที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ราชวงศ์หนุ่มสาว...ที่โดดเด่นที่สุดของโลก

Prince William เจ้าชายวิลเลี่ยม
Prince Harry เจ้าชายแฮรี่
สองพี่น้องแห่งสหราชอาณาจักร
คู่เจ้าชายพี่น้องดูโอวัย 26 และ 23 คู่นี้ติดท็อปลิสต์ของราชวงศ์รุ่นเยาว์ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก แถมยังทรงเป็นทหารหนุ่มที่หล่อที่สุดด้วย เจ้าชายวิวฃเลี่ยมทรงรับผิดชอบในพระกรณียกิจต่าง ๆ อย่างสง่างามและราบรื่นด้วยไหวพริบปฏิภาณความชาญฉลาดในการวางพระองค์และควบคุมพระองค์ได้ดีเยี่ยม แต่ก็ไม่ลืมที่จะท่องราตรีใช้ชีวิตสนุกสนานตามประสาชายโสด เจ้าชายแฮรี่ก็ทรงหล่อเหลามีเสน่ห์ไปอีกแบบและได้รับความสนใจมากขึ้นเมื่อทรงเข้าร่วมสนามรบที่อัฟกานิสถาน ทั้ง 2 พระองค์ทรงต่างยึดมั่นต่อครอบครัว และทรงยินดีกับบทบาทที่เป็นเหมือนทูตของประเทศด้วย


Zara Phillips ซาร่า ฟิลลิปส์ (แห่งสหราชอาณาจักร)
ถึงแม้ว่าจะไม่มีบรรดาศักดิ์ใด ๆ นำหน้า เนื่องจากเจ้าฟ้าหญิงแอนน์พระมารดาทรงพยายามปกป้องลูกจากความกดดันในการมีฐานันดรศักดิ์ ด้วยการให้ลูกทุกคนถอดถอนจากฐานันดรศักดิ์ แต่กระนั้น ซาร่า ฟิลลิป ก็มีความเป็นเลือดสีน้ำเงินทุกระเบียดนิ้ว เธอเป็นนักขี่ม้าระดับโลก และเมื่อใดก็ตามที่มีงานปาร์ตี้ของราชวงศ์อังกฤษ เธอก็เป็นหัวใจของงานที่ขาดไม่ได้ ที่สำคัญซาร่าแต่งตัวสวยและดูดีเสมอในทุก ๆ งาน


Princess Beatrice เจ้าหญิงเบียทริซ (แห่งสหราชอาณาจักร)


เจ้าหญิงเบียทริซทรงมีพระชัญษา 19 ปีแล้ว พระองค์คือภาพลักษณ์ที่ทันสมัยของราชวงศ์สมัยใหม่ เจ้าหญิงพระองค์นี้ใส่ใจเรื่องแฟชั้นมาก และทรงใช้ชีวิตได้อยางสมดุลทั้งในบทบาทของราชวงศ์และฐานะสามัญชนคนธรรมดาคนหนึ่ง
Andrea Casiraghi อันเดรีย คาสิรากิ (แห่งโมนาโก)
พระนัดดาในเจ้าหญิง เกรซ เคลลี่วัย 24 ชันษา และเป็นพระโอรสองค์โตของหญิงแคโรไลน์แห่งโมนาโค ทั้งยังเป็นนักกีฬาตัวยงจัดเป็นรัชทายาทลำดับ 2 แห่งราชวงศ์โมนาโค พูดได้ถึง 4 ภาษาและเพิ่งจะจบการศึกษาด้านศิลปะและรัฐศาสตร์การเมืองจากมหาวิทยาลัยอเมริกันในกรุงปารีสมาหมาด ๆ
Prince Albert เจ้าชายอัลเบิร์ต วอน เธิร์น อุนด์ ทาซิส


มีนึกศึกษาเพียงไม่กี่คนที่จะอวดได้ว่าในสมุดบัญชีของเขามีตัวเลขเกิน 2 พันล้านดอลล่าร์ แค่เพียง 24 ชันษา ก็เป็นมหาเศรษฐีอันดับ 3 ของโลกที่มีอายุน้อยที่สุด สมบัติของเขามีตั้งแต่ทรัพย์สินในธุกิจเทคโนโลยีและอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งมรดกของครอบครัว เช่น ธุรกิจเหล้าและบริษัทก่อสร้างปราสาท และยังทรงเป็นนักแข่งรถในสังกัดทีมไรเตอร์เอ็นจิเนียริ่งด้
Princess Tsuguko เจ้าหญิงซึกูโกะ (แห่งญี่ปุ่น)

ไม่มีใครรู้อะไรเกี่ยวกับเจ้าหญิงพระองค์นี้มากนัก เนื่องจากมีการห้ามเสนอเรื่องราวของราชวงศ์นี้เผยแพร่ออกสื่อ เจ้าหญิงวัย 22 พระองค์นี้ทรงกำลังศึกษาด้านสังคมวิทยาที่มหาวิทยาลัยเอดินเบิร์ก

Princess Sirivannavari พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์


พระธิดาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมารแห่งประเทศไทย นอกจากทรงเป็นนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติแล้ว พระองค์ยังมีความสนใจในเส้นทางของแฟชั่น ทรงเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์ ซึ่งนอกจากจะได้รับเชิญไปแสดงผลงานที่ปารีสแฟชั่นวีคแล้ว ก็ยังทรงนำผลงานไปร่วมแสดงในบางกอกแฟชั่นวีคถึง 2 ครั้งอีกด้วย

Prince Philippos เจ้าชายฟิลิปโปส์ (แห่งกรีซและเดนมาร์ก)
พระโอรสผู้หล่อเหลาชันษา 22 ปี ในกษัตริย์คอนสแตนตินและพระราชินีแอน-มารี แห่งกรีซ และ พระโอรสอุปถัมภ์ในเจ้าหญิงไดอาน่าและยังทรงเป็นว่าที่นักการเมืองในอนาคต























วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

10 เกาะสวย-ดีที่สุดในโลก

10 เกาะสวย-ดีที่สุดในโลก (INN)
เว็บไซต์ travel + leisure จัด10 สุดยอดอันดับเกาะดีที่สุดในโลก...เสียดายไทยแลนด์ไม่ติดอันดับ


คนที่ชื่นชอบในการท่องเที่ยว ลองมาชม 10 สุดยอดอันดับเกาะดีที่สุดในโลก ซึ่งเป็นผลจากการสำรวจของเว็บไซต์ travel + leisure ซึ่งได้จัดอันดับมาหลายครั้งแล้ว

อันดับ 10 เกาะแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา อันดับที่ 9 เกาะบิ๊ก ไอส์แลนด์ ฮาวาย สหรัฐอเมริกา (ตกจากปีที่แล้วอยู่อันดับ 7)
อันดับที่ 8 หมู่เกาะมัลดีฟส์ สาธารณรัฐมัลดีฟส์
อันดับที่ 7 หมู่เกาะเอโอเลียน ประเทศอิตาลี
อันดับที่ 6 เกาะมาอูอิ ฮาวาย สหรัฐอเมริกา (ตกลงมาเยอะเพราะปีที่แล้วอยู่อันดับ 3)
อันดับที่ 5 เกาะ Mount Desert ในรัฐเมน สหรัฐอเมริกา
อันดับที่ 4 เกาะคาอูอิ ฮาวาย สหรัฐอเมริกา (คงเส้นคงวาเพราะปีที่แล้วอยู่อันดับ 4)
อันดับที่ 3 เกาะเคป เบรตัน ในรัฐโนวา สโกเชีย ประเทศแคนาดา (ปีนี้ผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก กระโดดจากปีที่แล้วอยู่อันดับ 10)

อันดับที่ 2 หมู่เกาะกาลาปาโกส ประเทศเอกวาดอร์ (เป็นสถานที่ท่องเที่ยวติดอันดับโลกมาตลอดแต่ปีนี้ไม่ได้แชมป์แต่กลับเป็น รองแชมป์แทนเพราะปีที่แล้วอยู่อันดับ 1)

อันดับที่ 1 เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย (เอเซียในบ้านเรามีสถานที่สวยงามและน่าสนใจเหมือนกัน และก็ติดอันดับโลกมาตลอดเช่นกัน ปีนี้ไต่ขึ้นเป็นแชมป์ หลังเมือปีก่อนอยู่อันดับ 2)

8 ภาษาอังกฤษ แบบผิดๆ ที่ฮิต ติดปากคนไทย


ในปัจจุบันมีคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษที่คนไทยใช้กันจนติดปากอยู่มากมาย แต่คุณเคยรู้ไหมว่ามีบางคำที่ฝรั่งเค้าไม่ได้ใช้อย่างที่เราพูดกันติดปาก


1) อินเทรนด์ ( in trend) คำนี้อินเทรนด์มากๆ เอ๊ย...ฮิตมากๆ ในปัจจุบัน สามารถได้ยินตามรายการวิทยุหรือโทรทัศน์ทั่วไป เพราะใช้กันทั่วบ้านทั่วเมือง เช่น เด็กสมัยนี้ถ้าจะให้อินเทรนด์ต้องตามแฟชั่นเกาหลี ซึ่งบางทีเวลาคุณต้องการพูดว่า " มันทันสมัย " คุณอาจจะติดปากว่า "It is in trend." คำว่า " ทันสมัย " ฝรั่งเค้าไม่ใช้คำว่า "in trend" อย่างคนไทยหรอกครับ เค้าจะใช้คำว่า "trendy" หรือ "fashionable" ซึ่งเป็นคำคุณศัพท์ที่คุณสามารถวางไว้หน้าคำนามที่ต้องการขยาย เช่น a trendy haircut ทรงผมที่ทันสมัย , a fashionable restaurant ร้านอาหารที่ทันสมัย หรือจะไว้หลัง verb to be เช่น It is trendy. หรือ It is fashionable. ก็ได้

2) เว่อร์ ( over) เช่น ใยคนนั้นทำอะไรเว่อร์ๆ She is over. ไม่มีความหมายแต่อย่างใดในภาษาอังกฤษ ฝรั่งที่ได้ยินคุณพูดเช่นนี้ คงมึนตึบ พร้อมทำสีหน้างงว่ามันหมายถึงอะไรเหรอ ? พูดถึงคำนี้ คนไทยน่าจะหมายถึงการพูดเกินจริงหรือทำเกินจริง ซึ่งถ้าพูดเกินจริง ควรจะใช้คำศัพท์ที่ว่า "exaggerate" เป็นคำกิริยา อ่านว่า เอก-แซ้ก-เจ่อ-เรท เช่น
"He said you walked 30 miles." เค้าบอกว่าคุณเดินตั้ง 30 ไมล์ "No - he's exaggerating. It was o­nly about 15." ไม่หรอก เค้าพูดเว่อร์ (เกินจริง) มันก็แค่ 15 ไมล์เอง
ดังนั้น ถ้าจะบอกว่า เธอพูดเว่อร์น่ะ ก็บอกว่า You're exaggerating. หรือจะบอกเค้าว่า อย่าพูดเว่อร์ๆ น่ะ อาจใช้ว่า Don't exaggerate. ส่วนอาการเว่อร์อีกแบบคือการทำเกินจริง เราจะใช้คำกิริยาที่ว่า "overact" เช่น You're overacting. เธอทำเว่อร์เกิน (แสดงอารมณ์เกินจริง)

3) ดูหนัง soundtrack เวลาคุณจะบอกใครว่า ฉันต้องการดูหนังฝรั่งที่พากย์ภาษาอังกฤษ อย่าพูดว่า "I want to watch a soundtrack film." แต่ควรจะใช้ว่า "I want to watch an English film." เพราะความหมายของคำว่า "soundtrack" คือ ดนตรีที่อยู่ในภาพยนตร์ ต่างหากล่ะค่ะ ถ้าเราจะพูดถึงหนังฝรั่งที่พากย์เสียงภาษาไทย เราต้องบอกว่า "I want to watch an English film that is dubbed into Thai." เพราะคำกิริยาว่า "dub" คือพากย์เสียงจากต้นแบบในหนังหรือรายการโทรทัศน์ไปเป็นภาษาอื่น ส่วนหนังที่มีคำบรรยายใต้ภาพเราเรียกว่า "a subtitled film" ซึ่งคำบรรยายที่อยู่ใต้ภาพ เราเรียกว่า ( "subtitles"ต้องมี s ต่อท้ายเสมอนะค่ะ) เช่น a French film with English subtitles หนังฝรั่งเศสที่มีคำบรรยายใต้ภาพเป็นภาษาอังกฤษ
หนังบางเรื่องจะมีคำบรรยายใต้ภาพเป็นภาษาเดียวกับที่นักแสดงพูด เรามีศัพท์เรียกเฉพาะว่า "closed-captioned films/ คำหวงห้าม/ television programs" หรือ อาจเขียนย่อๆ ว่า "CC" เช่น You should watch a closed-captioned film to improve your English. คุณควรจะดูหนังฝรั่งที่มีคำบรรยายภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณ

4) นักศึกษาปี 1 คนไทยมักเรียกว่า "freshy" ซึ่งฝรั่งไม่รู้เรื่องหรอกครับ เพราะไม่มีการบัญญัติศัพท์คำนี้ในภาษาอังกฤษ เค้าจะใช้คำว่า "fresher" หรือ "freshman" เช่น He is a fresher. หรือ He is a freshman. หรือ He is a first-year student. เขาเป็นนักศึกษาปี 1 ส่วนปีอื่นๆ คนไทยเรียกถูกแล้วค่ะ คือ ปี 2 เราเรียก a sophomore, ปี 3 เรียกว่า a junior และ ปี 4 เรียกว่า a senior

5) อัดหรือบันทึก คนไทยมักพูดทับศัพท์ว่า เร็คคอร์ด ( record) คำๆ นี้สามารถเป็นได้ทั้งคำนามและคำกิริยา เพียงแค่เปลี่ยนตำแหน่ง stress กล่าวคือ ถ้าจะใช้เป็นคำนามที่แปลว่า แผ่นเสียงหรือสถิติ ให้ขึ้นเสียงสูงที่พยางค์แรก คือ " เร็ค-คอร์ด " เช่น He wants to buy a record. เขาต้องการซื้อแผ่นเสียง , I broke my own record. ฉันทำลายสถิติของฉันเอง แต่ถ้าคุณจะหมายถึงคำกิริยาที่แปลว่า อัดหรือบันทึก ต้อง stress พยางค์หลัง ซึ่งจะอ่านว่า " รี-คอร์ด " เช่น I'll record the film and we can all watch it later. ฉันจะอัดหนัง เราจะได้เก็บไว้ดูทีหลังได้ ส่วนเครื่องบันทึก เราเรียกว่า "recorder" อ่านว่า รี-คอร์-เดอร์

6) ต่างคนต่างจ่าย เรามักใช้ American share รับรองว่าฝรั่ง(ต่อให้เป็นชาวอเมริกันด้วยครับ) ได้ยินแล้ว งงแน่นอน ถ้าคุณจะหมายถึงต่างคนต่างจ่ายให้ใช้ว่า "Let's go Dutch." หรือ "Go Dutch (with somebody)." อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นธรรมเนียมของชาวดัตช์หรือเปล่า ? ที่ต่างคนต่างจ่ายเลยมีสำนวนอย่างนี้ หรือคุณอาจจะบอกตรงๆ เลยว่า "You pay for yourself." คือเป็นอันรู้กันว่าต่างคนต่างจ่าย แต่ถ้าคุณต้องการเป็นเจ้ามือเลี้ยงมื้อนี้เอง คุณควรพูดว่า "It's my treat this time." หรือ "My treat." หรือ "It's o­n me. " หรือ "All is o­n me. " หรือ "I'll pay for you this time." ทั้งหมดแปลว่า มื้อนี้ฉันจ่ายเอง ส่วนถ้าจะบอกเพื่อนว่า คราวหน้าแกค่อยเลี้ยงฉันคืน ให้บอกว่า "It's your treat next time."

7) ขอฉันแจม ( jam) ด้วยคน ในกรณีนี้คำว่า " แจม " น่าจะหมายถึง " ร่วมด้วย " เช่น We are going to eat outside. Do you want to jam? เรากำลังจะออกไปกินข้าวข้างนอก เธอจะไปด้วยมั้ย ? ในภาษาอังกฤษไม่ใช้คำว่า jam ในกรณีแบบนี้ ซึ่งควรจะใช้ว่า "Do you want to join us?", "Do you want to come with us?" หรือ "Do you want to come along?" จะดีกว่าค่ะ


8) เขามีแบ็ค ( back) ดี "He has a good back." ฝรั่งคงงงว่ามันเกี่ยวอะไรกับข้างหลังของเค้า เพราะ back แปลว่า หลัง (อวัยวะ) แต่คุณกำลังจะพูดถึงมีคนคอยสนับสนุน ซึ่งต้องใช้ "a backup" ซึ่งหมายถึง คนหรือสิ่งของที่ช่วยสนับสนุน ช่วยเหลือ เกื้อกูล เป็นกำลังใจให้


ที่มา : Ern Jar (Forward Mail)

วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

พยัญชนะไทยที่ “คนไทย” สับสนมากที่สุด


จากโพล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ พบว่าพยัญชนะภาษาไทยที่คนไทยสับสนในการใช้มากที่สุด มีอันดับดังต่อไปนี้

อันดับที่ 1 >> คือพยัญชนะตัว “ฎ” มีจำนวนร้อยละ 26.1

อันดับที่ 2 >> คือพยัญชนะตัว “ฏ” มีจำนวนร้อยละ 13.6

อันดับที่ 3 >> คือพยัญชนะตัว “ร” มีจำนวนร้อยละ 9.8

อันดับที่ 4 >> คือพยัญชนะตัว “ฑ” มีจำนวนร้อยละ 5.8

อันดับที่ 5 >> คือพยัญชนะตัว “ณ, ฐ” มีจำนวนร้อยละ 4.5

วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

5 ตุ๊กตาสุดฮิตของโลก

1. Blythe ความ จริงถือกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่ยุคปี 70s ในสหรัฐอเมริกา แต่ว่ากลับมาฮิตในช่วงหลังปี 2003 มักสะสมไว้เป็นคอลเล็คชั่น และมีลูกเล่นต่างๆ เพิ่มขึ้น เช่น เปลี่ยนสีนัยน์ตาได้ สนนราคาอยู่ตั้งแต่ 30-470 เหรียญสหรัฐฯ หรือมากกว่านั้นแล้วแต่กระแสความนิยม




2. Fashion Royalty Dolls ดีไซน์โดย เจสัน วู ซึ่งสามารถแต่งหน้าแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าได้ โดยเลียนแบบนางแบบหรือนักแสดงชื่อดัง สนนราคาอยู่ที่ 80-400 เหรียญสหรัฐฯ




3. Momoko Dolls ตุ๊กตาจากญี่ปุ่นที่สามารถยืดหยุ่นข้อมือศอกและเข่าได้ สามารถหาซื้อได้ที่ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา ราคาตั้งแต่ 100-150 เหรียญสหรัฐฯ




4. Gene Marshall Dolls ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ยุค 90s โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากดาราฮอลลีวูด แต่จะไม่มีเสื้อผ้ามากมายเหมือนบาร์บี้ การแต่งกายจะเป็นแนววินเทจ ราคาประมาณ 75-140 เหรียญสหรัฐฯ




5. Tonner Dolls ออกแบบโดย โรเบิร์ต ทอนเนอร์ ซึ่งเป็นตุ๊กตาที่ดูเสมือนคนจริงๆ อย่างเช่น แมรี่ ป๊อปปินส์ อลิซในวันเดอร์แลนด์ ทูม เรเดอร์ และไพเรตส์ ออฟ เดอะ แคริบเบียน ราคาประมาณ 90-120 เหรียญสหรัฐฯ

วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เด็กไม่เอาถ่าน คำนี้มีที่มาจากอะไร?

เด็กที่วันๆ เอาแต่เล่นเกมส์ออนไลน์ ไม่อ่านหนังสือเรียน การบ้านก็ไม่ทำ งานบ้านก็ไม่เคยคิดจะหยิบจับช่วยเหลือพ่อแม่ ทานอาหารแล้วไม่รู้จักล้างจานชาม เหล่านี้ล้วนเป็นตัวอย่างพฤติกรรมของ เด็กไม่เอาถ่าน

เด็กไม่เอาถ่าน, เหล็กไม่เอาถ่าน, เด็กดื้อ, เด็กโง่



ทำไมจึงเรียก "เด็กไม่เอาถ่าน" คาดกันว่าคำนี้มีที่มาจากคำเดิม คือ "เหล็กไม่เอาถ่าน" เพราะ ในสมัยก่อนนั้น การหลอมเหล็กหรือตีอาวุธจากเหล็กให้แข็งแกร่งนั้น จำเป็นต้องใช้ถ่านในการก่อเปลวไฟจนลุกโชน เพื่อให้ความร้อนแก่เหล็ก แล้วถ่านหรือคาร์บอนจะแทรกตัวเข้าไปอยู่ในเนื้อเหล็กหลังจากการถลุง ถ้าเหล็กไม่มีถ่านผสมอยู่เลย เหล็กนั้นจะมีคุณภาพต่ำ ไม่แข็งและเหนียวพอที่จะเรียกว่า เหล็กกล้า แต่หากมีมากเกินไปจะทำให้เหล็กเปราะ เหล็กที่ดีควรมีคาร์บอนเข้าไปผสมอยู่ประมาณ 0.1 - 1.8%


ช่างตี อาวุธจากเหล็กในสมัยโบราณ จำเป็นต้องคิดค้นหากลวิธี เพื่อขจัดปัญหาดาบหัก เพราะแสดงถึงกรรมวิธีการผลิตที่ไม่ดีทำให้เหล็กไม่เอาถ่าน จนกลายเป็นคำพูดติดปาก เปรียบเทียบนิสัยคนกับอาวุธว่า "เหล็กไม่เอาถ่าน"

ทำไม...ต้องสวมแหวนแต่งงาน ที่ นิ้วนาง

ทำไม... ต้องสวมแหวน แต่งงานที่ “นิ้วนาง” ด้วย ไม่ใช่แค่เพราะเราเรียกมันว่า ring finger แน่ๆ มันต้องมีความหมายมากกว่านั้น


ทดลองพิสูจน์ความมหัศจรรย์ด้วยตัวเอง

ลอง แบมือ 2 ข้าง ประกบเข้าหากัน (พนมมือ) แล้วงอนิ้วกลางลงข้างใน เอาหลังนิ้วกลาง ทั้ง 2 ข้างมาชนกัน ทีนี้... นิ้วที่เหลือ ก็คือ โป้ง/ ชี้/ นาง/ก้อย ให้เอาปลายนิ้วมาชนกัน ลองปล่อยนิ้วที่เอาปลายชนกัน ให้ออกจากกันทีละนิ้วโดยที่ “นิ้วกลาง” ยังคงงอแตะกันอยู่จะพบว่า...

นิ้วชี้ ก็ปล่อยจากกันได้
นิ้วโป้ง ก็ปล่อยจากกันได้
นิ้วก้อย ก็ปล่อยจากกันได้ อย่างสบายๆ

แต่... “นิ้วนาง” กลับปล่อยออกจากกันไม่ได้ นั่นเป็นเพราะ ...

นิ้วกลาง แทน ตัวเราเอง
นิ้วโป้ง แทน พ่อแม่ ซึ่งวันหนึ่งท่านก็ต้องจากเราไป
นิ้วชี้ แทน พี่น้อง ซึ่งเขาก็ต้องไปมีชีวิตของเขาเอง
นิ้วก้อย แทน ลูก พอโตขึ้น ลูกก็ต้องไปมีชีวิตของตัวเอง มีสังคม, ครอบครัว ของตัวเอง
นิ้วนาง แทน "คู่ชีวิต" ...ทีนี้ก็เหลือแค่ "คู่ชีวิต" แล้วล่ะ ที่จะอยู่กับเราไปจนแก่


วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

คุณลุงหน้าร้าน KFC เขาเป็นใครกันหนอ

เพื่อนๆเคยสงสัยหรือเปล่าว่า คุณลุงหน้าร้าน KFC เขาเป็นใครกัน ถ้าสนใจก็ลองอ่านดูล่ะกันน้า
คุณลุงหน้าร้าน KFC เขาเป็นใครกันหนอ

หุ่นชายแก่ที่เราเห็นเวลาผ่านร้านเคเอฟซีนั้นคือผู้ก่อตั้งเคเอฟซี ตั้งแต่ปี ค.ศ.1939 เขาชื่อว่า ฮาร์แลนด์ ดี แซนเดอร์ส เกิดวันที่ 9 กันยายน ค.ศ. 1890 มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน เป็นลูกชายคนโต เมื่อเขาอายุได้เพียง 6 ขวบบิดาก็เสียชีวิตทำให้ แม่ต้องทำงาน เพื่อหาเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว แซนเดอร์สยังเป็นเด็กน้อยอายุ 6 ขวบ ต้องรับภาระเลี้ยงดูน้องชายอายุ 3 ขวบและน้องสาวที่ยังเล็กอยู่ เขาต้องทำงานบ้านทุกอย่าง รวมถึงทำอาหารเองด้วย แซนเดอร์สมีความสามารถในเรื่องนี้มาก จนได้รางวัลชนะเลิศในการประกวดทำอาหารประจำหมู่บ้าน ขณะที่อายุได้เพียง 7 ขวบเท่านั้น แซนเดอร์สเริ่มรับจ้างทำงานครั้งแรก เมื่อมีอายุได้ 10 ปี โดยเริ่มจากการทำงานในฟาร์มใกล้บ้านได้ค่าแรงเพียงเดือนละ 2 ดอลลาร์ และอายุได้ 12 ปี เขาก็ออกจากบ้านไปทำงานที่ฟาร์มในหมู่บ้านเฮนรี วิลล์
ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตการทำงานหลายๆ อย่างที่เขาเคยทำ เช่น เป็นนักดับเพลิง ฝึกงานที่ศาลขายประกัน ขายยาง ทำงานที่สถานีขนส่ง และเมื่ออายุ 47 ปี แซนเดอร์สก็เริ่มทำอาหารจำหน่ายที่สถานีขนส่งในรัฐเคนตั๊กกี้ ปรากฏว่าอาหารที่เขาทำเป็นที่นิยมมาก แซนเดอร์สจึงลาออกไปทำร้านอาหาร หลังจากนั้นอีก 9 ปี เขาได้คิดค้นสูตรการปรุงไก่ทอดด้วยส่วนผสมลับเฉพาะ จากเครื่องเทศ 11 ชนิด และใช้วิธีการทอดไก่แบบพิเศษเพื่อรักษารสชาติและความหอมอร่อยของไก่ทอดไว้ ซึ่งถือเป็นต้นกำเนิดไก่ทอด สูตรต้นตำรับเคเอฟซี แซนเดอร์สสร้างชื่อให้รัฐเคนตั๊กกี้มาก ผู้ว่าการรัฐจึงแต่งตั้งให้เขาเป็น "ผู้พันแซนเดอร์ส" เพื่อเป็นเกียรติ จนถึงวันนี้เคเอฟซีได้ขยายสาขามากกว่า 29,500 แห่งใน 92 ประเทศทั่วโลก ...โดยมีหุ่นจำลองของผู้พันแซนเดอร์สตั้งอยู่หน้าร้าน เหมือนเป็นเครื่องรับประกันถึงความอร่อยของไก่ทอด ตำหรับ

COLONEL SANDERS THE LEGENDARY CHICKEN EXPERT

1890 ตำนานความอร่อยของไก่ทอด KFC เริ่มต้นโดยพันเอกฮาร์แลนด์ ดี แซนเดอร์สท่านถือกำเนิดขึ้นในเมืองคอร์บิน มลรัฐเคนตั๊กกี้ เมื่อวันที่ 9 กันยายน ในปี 1890

1930 ในช่วงปี 1930 พันเอกฮาร์แลนด์ ดี แซนเดอร์สเริ่มปรุงไก่ทอดที่แสนอร่อย ให้แก่นักเดินทางทั่วไปที่มาหยุดพักรับประทานอาหารที่ร้านของท่านในเมือง คอร์บิน มลรัฐเคนตั๊กกี้

1939 ชื่อผู้พันแซนเดอร์สเริ่มเป็นที่รู้จัก ในปี 1939 พันเอกฮาร์แลนด์ ดี แซนเดอร์สได้รับเกียรติจากมลรัฐเคนตั๊กกี้แต่งตั้งให้ท่านเป็นผู้พันเคนตั๊กกี้ แทนความยินดีจากผู้ว่ามลรัฐ เคนตั๊กกี้ที่ท่านได้สร้างชื่อเสียงให้แก่รัฐ เพราะท่านได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจ เพื่อคิดค้นสูตรไก่ทอดที่แสนอร่อย โดยนำไก่มาคลุกเคล้ากับเครื่องเทศ 11 ชนิด และใช้วิธีพิเศษของการทอดด้วยเตาทอดระบบ ความดัน เพื่อรักษารสชาติ หอมอร่อยของไก่

1950 ด้วยความมั่นใจในรสชาติและคุณภาพของไก่ทอดในปี 1950 ผู้พันเริ่มออกเดินทางไปทั่วสหรัฐอเมริกาและแคนาดาด้วยตัวท่านเอง จากร้านหนึ่งไปสู่อีกร้านหนึ่ง เพื่อขายแฟรนไชส์ธุรกิจของท่าน

1955 ในปี 1955 ไก่ทอดเคนตั๊กกี้ได้ก่อตัวขึ้นในรูปบริษัทเป็นครั้งแรก โดยผู้ก่อตั้งคือผู้พันแซนเดอร์ส

1964 มาในปี 1964 ผู้พันแซนเดอร์สได้ขายกิจการไก่ทอดเคนตั๊กกี้ให้แก่กลุ่มนักลงทุนมืออาชีพที่มี Jack Massey และ John Y. Brown Jr.เป็นแกนนำ

1978 เพื่อรักษาไก่ทอดเคนตั๊กกี้ให้คงคุณภาพและรสชาติแบบดั้งเดิม จึงมีการเปิดศูนย์ฝึกอบรมแห่งชาติของ KFC ขึ้นในปี 1978 โดยมีผู้พันแซนเดอร์สเป็นผู้ตรวจสอบการรักษารสชาติ ของไก่ทอดเป็นหม้อแรกจากพีท ฮาร์แมน ผู้ที่ได้แฟรนไชส์เป็นรายแรก

1980 แล้วในปี 1980 ผู้พันแซนเดอร์สก็ถึงแก่กรรมท่านอายุได้ 90 ปีร่างของท่านถูกนำไปตั้ง ณ ที่ทำการของเมืองหลวงมลรัฐเคนตั๊กกี้ และจากนั้นได้ถูกนำไปฝังที่สุสานเดฟฮิลล์ เมืองหลุยวิลล์

1999 ในปัจจุบัน KFC มีเครือข่ายของร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีร้านที่ให้บริการอาหารและของว่างมากกว่า 29,500 แห่ง ในกว่า 92 ประเทศทั่วโลก KFC ภายใต้ความยิ่งใหญ่ของผู้พันแซนเดอร์สถือเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม และยังคงก้าวต่อไปอย่างมั่นคงด้วยคุณภาพและสำนึกในความรับผิดชอบที่ดีต่อสังคม ไม่ว่าท่านจะอยู่ในประเทศใดท่านจะสามารถสัมผัสและระลึกถึงผู้พัน แซนเดอร์ส ตำนานแห่งไก่ทอดแสนอร่อยของ KFC ได้เสมอ

วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

discoverhongkong


5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของฮ่องกง

สัมผัสเสียงเรียกของฮ่องกง เมืองที่ผสมผสานความทันสมัยของศตวรรษที่ 21 และมนต์เสน่ห์แห่งอดีตกาลเข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน ที่ๆ ตึกระฟ้าตั้งอยู่เคียงข้างอาคารเก่าแก่ของยุคอาณานิคมและวัดจีนโบราณยอดเขา



วิคตอเรียพีคโดยรถรางพีคแทรม

นั่งรถรางพีคแทรมที่ลากจูงขึ้นสู่ยอดเขาด้วยระบบสายเคเบิ้ล ที่เปิดบริการตั้งแต่ปีค.ศ. 1888 เพื่อขึ้นไปยังยอดเขาวิคตอเรียพีค จากจุดนั้นเดินทางต่อไปยัง อ่าวรีพัลส์เบย์ หนึ่งในชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮ่องกง



หมู่บ้านชาวประมงอาเบอร์ดีน

นั่งเรือสำปั้นเพื่อไปชมจุดหลบพายุไต้ผุ่นอาเบอร์ดีน ที่โด่งดังอย่างใกล้ชิด เพื่อชมชุมชนชาวประมง หลังจากนั้นไปเยี่ยมชมโรงงานเครื่องประดับที่อยู่ไม่ไกล

ติ่มซำมื้อเที่ยงที่จัมโบ้คิงด้อม

ตั้งอยู่ท่ามกลางหมู่บ้านชาวประมง เพลิดเพลินกับติ่มซำ ณ หนึ่งในภัตตาคารลอยน้ำ ที่โด่งดังของโลก


วัดหว่องไทซิน

วัดหว่องไทซิน อายุเก่าแก่ถึง 75 ปี อัญมณีทางวัฒนธรรมที่ยังคงเป็นสถานสักการะอันศักดิ์สิทธิ์ และศูนย์รวมของชุมชน มีบรรดาหมอดูทำนายโชคชะตาตั้งเรียงรายอยู่ด้านนอกของวัด

นั่งเฮลิคอปเตอร์ชมเมือง


เพลิดเพลินกับขอบฟ้าอันตระการตาของฮ่องกงจากมุมมองบนท้องฟ้า เมื่อเครื่องเริ่มบินขึ้น คุณจะต้องตะลึงกับความงดงามของอ่าววิคตอเรีย อัญมณีน้ำงามของฮ่องกง

วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

มาดูเงินของเกาหลีกัน


ประเทศเกาหลีใต้มีเหรียญที่นิยมใช้อยู่ในปัจจุบันคือ
10 วอน (십원 ชิบ-วอน)
50 วอน (오십원 โอ-ชิบ-วอน)
100 วอน (백원 แพก-วอน)
500 วอน (오백원 โอ-แบก-วอน)
ธนบัตรที่มีในปัจจุบัน คือ
1000 วอน (천원 ช่อน-วอน)
5000 วอน (오천원 โอ-ช่อน-วอน)
10000 วอน (만원 มัน-วอน)

วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เพชรเม็ดใหญ่ที่สุดในจักรวาล



เมื่อมหาวิทยลัย Harvard-Smithsonian Center Astrophysics ได้นำเสนอในรายประจำปี ว่าค้นพบดวงดาวที่มีมวลเป็น ผลึกคาร์บอน โดยดาวดวงนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อ BPM 37093 และหลังจากการเปิดเผยข้อมูลนี้ทำให้ดาวดวงนี้ถูกเรียกใหม่ให้ง่ายว่า " Lucy " ตามเนื้อเพลงของ The Beatles ในท่อนว่า " Lucy in the Sky with Diamonds " ดาวดวงนี้มีระยะทางจากโลก 50 ปีแสง มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของเพชรประมาณ 2500 ไมค์ มีน้ำหนัก 10,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000 กะรัต ( หนึ่งแล้วมีศูนย์ตาม 34 ตัว ) โดยแท้จริงแล้ว เพชรเม็ดนี้ก็คือแกนของดาวแคระขาว ( White dwarf ) หรือแกนของดาวที่เหลือจากการใช้พลังงานนิวเคลียร์ จนหมดหรือก็คือดาวที่ตายแล้ว ทำให้เกือบทั้งดาวเป็นคาร์บอน และมีพื้นผิวบางๆเป็นไฮโดรเจน ( Hydrogen ) และ ฮีเลียม ( Helium )


เช่นกันและหลังจากนี้ 5,000,000,000 (ห้าพันล้าน) ปี ดวงอาทิตย์ก็จะดับ และกลายเป็นดาวแคระขาว ( White dwarf ) และหลังดวงอาทิตย์ดับไปแล้ว 2,000,000,000 (สองพันล้าน) ปี แกนของดวงอาทิตย์ก็จะกลายเป็นผลึกคาร์บอน เหลือไว้เพียงโคตรเพชรกลางระบบสุริยะของเรา

ภาษาอังกฤษน่ารู้


mind กับ mindful สองคำนี้คุ้นหูกันมั๊ยคะคาดว่าคงจะคุ้นกับคำแรกกันซะมากกว่า


mind อันดับแรกเป็นคำนาม แปลว่า “จิตใจ, ความทรงจำ, ความรู้สึก ฯลฯ”


You will always be on my mind.(เธอจะอยู่ในความทรงจำฉันตลอดไป)


mind ต่อไปก็ในฐานะคำกริยา แปลว่า “ใส่ใจ, ดูแล, ระวัง” เป็นต้น


Mind the step.(ระวังขั้นบันไดน๊า)


Mind the door.(ระวังประตู)สำหรับประตูที่เป็นกระจกใสๆ จนแยกแทบไม่ออก


Mind the gap between train and platform.(กรุณาใช้ความระมัดระวังขณะก้าวออกจากรถ)ประโยคนี้คงจะคุ้นๆ หูสำหรับเพื่อนๆ ที่ใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินของบ้านเรา


ที่ใช้บ่อยที่สุด เห็นจะเป็นในแง่คำถามหรือขอร้อง“รังเกียจไหม, จะว่าอะไรมั๊ย ถ้า...”


Do you mind if I smoke?(คุณจะว่าอะไรมั๊ย ถ้าฉันจะสูบบุหรี่)


Would you mind helping me to solve this question ?(คุณจะรังเกียจมั๊ยที่จะช่วยฉันไขปัญหาข้อนี้หน่อย)


If you don't mind, I would like to ask something.(ถ้าคุณไม่ว่าอะไร ผมขอถามอะไรสักอย่าง)


และสุดท้ายคือ mindful เป็นคำคุณศัพท์ที่แปลว่า “เอาใจใส่ หรือใส่ใจ”


I am always mindful of your feeling.(ฉันใส่ใจกับความรู้สึกของคุณเสมอ)


Please be mindful of your duties.(กรุณาใส่ใจต่อหน้าที่ของคุณด้วย)

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย


แมว ญี่ปุ่นเขาไม่ได้ร้อง “เหมียว เหมียว” เหมือนอย่างแมวไทยหรอกนะคะ เขาว่ากันว่าแมวที่ญี่ปุ่นมันจะร้อง “เนียง เนียง” หรือ “เนีย เนีย” ค่ะ ส่วนสุนัขที่ญี่ปุ่นจะเห่า “วัง วัง” อ่านแล้วลองออกเสียงกันดู ก็พอได้อยู่นะคะเนี่ย ^_^

วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

มาสำรวจนิสัยของเพื่อนในกลุ่มกันเถอะ!!


เคยสำรวจเพื่อนๆ ในกลุ่มของตัวเองกันบ้างไหมว่า เพื่อนแต่ละคนมีีลักษณะนิสัยแบบไหนบ้าง ก็คงจะมีทั้งคนขี้หลงขี้ลืม จอมโก๊ะ นักวางแผน ฯลฯ มาสำรวจนิสัยของเพื่อนในกลุ่มกันเถอะ!!


ขี้เก๊ก!! เป็นหนุ่มสาวที่เวลาอยู่หน้าต่อคนอื่นจะมีลักษณะวางท่าแบบขี้เก๊กนิดๆ แต่เวลาอยู่กับเพื่อนที่สนิทแล้วล่ะก็ จะเป็นคนที่หลุดๆ รั่วๆ ขำขำ หรือให้ทำท่าพิสดารขนาดไหนก็ทำได้

ยัยซุ่มซ่าม!! เพื่อนๆ เคยเจอไหมจ๊ะเวลาที่เรากำลังเดินคุยกับเพื่อนอย่างสนุกสนานเมามัน แล้วเพื่อนก็เดินไปชนประตูกระจกเฉยเลย ทั้งๆ ที่มันก็ตั้งอยู่เฉยๆ ของมัน หรือเพื่อนสาวรีบไปเข้าห้องน้ำจนลืมดูเลยว่าตัวเองเข้าห้องน้ำผู้ชาย

เจ้าปลาทอง!! เพื่อนลักษณะแบบนี้เป็นคนที่ขี้หลงขี้ลืมเอามากๆ แบบว่าเพิ่งคุยกันจบได้ไม่นาน เพื่อนก็ลืมไปแล้วว่าเมื่อสักครู่คุยเรื่องอะไรกัน เจอเพื่อนลักษณะนี้ต้องใจเย็น อย่าเพิ่งหงุดหงิดนะจ๊ะ
มาสำรวจนิสัยของเพื่อนในกลุ่มกันเถอะ!!


ผู้รอบรู้!! ถ้ามีข้อสงสัยเรื่องไหนสามารถถามเพื่อนคนนี้ได้ เพราะเขาเป็นห้องสมุดเคลื่อนที่ ที่มีคำตอบดีๆ ให้เราอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบ้านที่เราว่ายากแสนยากแต่เขาก็สามารถอธิบายให้เราเข้าใจได้ในทันที เป็นต้น

นักวางแผน!! เป็นคนที่ชอบวางแผนจัดการในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเซอร์ไพรส์วันเกิดเพื่อนสนิท หรือวางแผนสร้างเรื่องให้เพื่อนๆ ในกลุ่มได้ตกใจกันเล่น เรียกได้ว่าเป็นนักวางแผนและจอมอำนั้นเอง

จอมปล่อยมุกฮา!! ทุกกลุ่มจะต้องมีเพื่อนลักษณะแบบนี้กลุ่มละ 1-2 คนแน่นอน เพราะจะเป็นคนที่มีเรื่องฮาๆ ขำขำ มาเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเพื่อนๆ ออกมาตลอดเวลา เป็นสีสันของกลุ่มเลยทีเดียว

วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

คาถา" ใน "Harry Potter


คาถา ฟิเดลลิอัส - ซ่อนความลับไว้ในวิญญาณของ ผู้รักษาความลับ
คาถา ดิสเซนดิอุม - เปิดรูปปั้น
คาถา ทารันทัลเลกร้า - คาถาเต้นรำ
คาถา เพสกิพิกซี่ เพสเตอร์โนมี่ - คาถาหยุดตัวพิกซี่
คาถา เพ็ตตริฟิคัส โททาลัส - สาปให้แขนขาติดกับลำตัว
คาถา เฟอรูล่า - คาถาเสกผ้าพันแผล
คาถา โมบิลิคอร์ปัส - คาถาย้ายผู้ที่ไม่สามารถเดินได้
คาถา โมบิลิอาบัส - คาถาย้ายวัตถุสิ่งของ
คาถา ริกตัสเซมปร้า - คาถาจี้เส้น
คาถา ริดดิคูลัส - คาถาไล่บ็อกการ์ต
คาถา รีดัคโต - คาถาทลายด่าน
คาถา วิงการ์เดียม เลวีโอซ่า - คาถาเสกให้สิ่งของลอย
คาถา ออบลิเวียต - คาถาลบความจำขั้นรุนแรง
คาถา อ๊อบลิวิอาเต้ - คาถาลบความจำ
คาถา อิมเปริโอ - คาถาสะกดใจ
คาถา เอ็นกอร์จิโอ - คาถาเสกให้ตัวพอง
คาถา แอ๊กซีโอ - คาถาเรียกของ
คาถา อาโลโฮโมร่า - คาถาสะเดาะกุญแจ
คาถา เอกซ์เปลลิอามัส - คาถาปลดอาวุธ
คาถา อิมเพอร์วิอัส - คาถาไล่น้ำ
คาถา อิมเปดิเมนต้า - คาถาสกัดภัย
คาถา เอกซ์เปกโต พาโตรนุม - คาถาเสกผู้พิทักษ์
คาถา สตูเปพาย - คาถาสะกดนิ่ง
คาถา ลูมอส - คาถาจุดไฟที่ไม้กายสิทธิ์
คาถา น็อก - คาถาดับไฟที่ไม้กายสิทธิ์
คาถา อินเซนดิโอ - คาถาจุดไฟ
คาถา เฟอร์นันคูลัส - คาถาเสกฝีหนอง
คาถา เด็นเซากีโอ - คาถาเสกฟันให้ใหญ่ขึ้น
คาถา ออร์คิดดีอุส - คาถาเสกดอกไม้
คาถา อาวิส - คาถาเสกนก
คาถา โซโนรัส - คาถาขยายเสียง
คาถา ไควเอตตัส - คาถาถอนขยายเสียง
คาถา เอเนอร์วาเต้ - เสกให้รู้สึกตัว
คาถา มอร์สมอร์เดร - คาถาเสกตรามาร
คาถา ไพร-ออร์ อินคานตาโต้ - คาถาตรวจสอบคาถาสุดท้ายจากไม้กายสิทธิ์
คาถา ชี้ทาง - คาถาตรวจสอบทางที่ถูกต้องเมื่อ วางไม้กายสิทธิ์ราบกับฝ่ามือ
คาถา อะวาดา เคดาฟ-รา - คำสาปพิฆาต
คาถา เซอร์เพ็นเซอร์เฮีย - คาถาเสกงู
คาถา โลโคมอเตอร ์มอติส - คาถาผูกขา
คาถา ไฟไนท์ อินคานทาเท็ม - คลายคาถา
คาถา ครูซิโอ - คำสาปกรีดแทง
คาถา เรดูซิโอ - คาถาทำให้ตัวหดลง
คาถา เรส - คาถาฟื้นหลัง
คาถา วาดดิสวาซี่ - คาถาเสกของให้จู่โจมคนที่ต้องการ
คาถา อะพาเรซีอุม - คาถาเสกหมึกล่องหนให้ปรากฏ
คาถา อะพาเรเต้ - คาถาหายตัวไปยังที่ต่างๆ
คาถา ดิลิตริอัส - คาถาสลายตัว ทำให้แตกเป็นส่วนๆ
คาถา โอคิวรัส เรพาโร - คาถาซ่อมแซมสิ่งของ
คาถา รีลาชีโอ - คาถาไล่คนออกไปห่างๆ
คาถา ดิฟฟินโด - คาถาฉีกขาดให้แยกออกเป็นส่วนๆ
คาถา เรลาชีโอ - เสกน้ำร้อนพุ่งไปหากรินดี้โลว์
คาถา ดวงตากระต่ายกับเสียงดีดพิณ เปลี่ยนน้ำส่วนนี้ให้เป็นรัม - เสกน้ำให้กลาย
เป็นเหล้ารัม
คาถา สเกอจิฟาย - คาถาทำความสะอาด
คาถา อีวาเนสโค - คาถาอันตรธาน
คาถา ซิเลนซีโอ - คาถาสงบเสียง
คาถา เลกจิลิเมนส์ - คาถาอ่านใจ
คาถา อินคาเซอรัส - คาถาเสกเชือก
คาถา ฟลาเกรต - คาถาสร้างเครื่องหมายบนอากาศ
คาถา คอลโลพอร์ตัส - คาถาล็อคกุญแจ
คาถา ไฟไนท์ - คลายคาถา
คาถา โพรเทโก้ - คาถาเกราะป้องกัน
คาถา พอร์ตัส - คาถาเสกกุญแจนำทาง

"ทายนิสัยจากวิชาที่ชอบ"


วันนี้เรามีเรื่องทายนิสัยจากวิชาที่คุณชื่นชอบมากที่สุด มาให้อ่านกันว่าคุณมีนิสัยอย่างไร ซึ่งบอกได้จากวิชา อย่ารอช้า ไปอ่านเลย


คณิตศาสตร์
คนที่ชอบวิชานี้ มักเป็นคนละเอียดถี่ถ้วน มีความคิดไกล บางคนเห็นเฉยๆ นะ ที่จริงก็น่าดูเหมือนกัน เพราะพวกนี้ไม่ชอบแสดงออกเท่าไหร่ แต่ถ้าแสดงออกมาแต่ละที คนรอบข้างเซอร์ไพรส์แน่


วิทยาศาสตร์
เป็นคนมีเหตุผล ไม่ชอบพูดเรื่องไร้สาระ ชอบฟังมากกว่าพูด ไม่เหมือนกับพวกหัวศิลปะ เพราะว่ามีจิตใจเข้มแข็ง ไม่ชอบจุ้นจ้านวุ่นวายกับใคร


ภาษาอังกฤษ
เป็นคนสดใส ร่าเริงได้ทั้งวัน ชอบชีวิตอิสระ ไม่ชอบง้อใคร เป็นคนเปิดเผย ตรงไปตรงมาดี แต่ใครที่ชอบวิชานี้นะ น้อยใจเก่งเป็นบ้าเลย ถ้าหน้าตาเศร้าหมองเมื่อไร แสดงว่ากำลังมีเรื่องกลุ้มใจและต้องคิดอย่างหนัก


สังคม
เป็นพวกที่รักความยุติธรรม ชอบแสวงหาสิ่งแปลกๆ ใหม่ ๆ ใส่ตัว ไม่ชอบคำว่าแพ้ จริงจังกับชีวิต มักจะมีอุดมคติและจุดหมายของชีวิตที่มั่นคง คนพวกนี้มักจะพูดเก่ง ไม่ชอบให้ใครมาบังคับ เวลาโมโหจะรุนแรงมาก


ภาษาไทย
เป็นพวกที่มีความคิดแบบผู้ใหญ่ มักจะมองคนอื่นเด็กกว่าตัวเองอยู่เรื่อย เป็นคนเรียบร้อย มีระเบียบ ท่าทางสุภาพจนหลายๆ คนเกรงใจ เวลาพูดหรือเตือนอะไรใคร ก็ไม่ชอบให้เค้าเถียงหรือแซว แต่ถ้าเตือนแล้วไม่ฟัง ก็จะไม่พูดซ้ำซากอีกเลย คือตัดหางปล่อยวัดนั่นแหละ


ศิลปะ
คุณน่ะอารมณ์อ่อนไหว มีจิตนาการกว้างไกล จิตใจอ่อนโยน ถ้าผู้ชายชอบวิชานี้ จะชอบผู้หญิงที่เอาใจเก่งเป็นพิเศษ ไม่ชอบคนเรื่องมาก ถ้ารักใครสักคนจะจริงใจมาก รักมั่นคง ซะด้วย