วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2552

เด็กป.1 ฝัน “โตขึ้นหนูอยากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐคอรัปชั่น”

ขณะที่ผู้นำสูงสุด ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเตือนคอรัปชั่นเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงของประเทศชาติ และการปกครองของพรรคฯ เด็กนักเรียนวัย 6 ขวบ ชั้นประถมปีที่1 ให้สัมภาษณ์ความฝันว่า “เมื่อโตขึ้นหนูอยากเป็นเจ้าหน้าที่คอรัปชั่น” ในภาพ: สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ที่มหาศาลาประชาคมในกรุงปักกิ่งปี พ.ศ. 2551 -เอเอฟพี
คำพูดเด็กๆ เท่านั้นเอง?

ข่าวเด็ดสุดฮือฮาประจำสัปดาห์เปิดเทอมของประเทศจีน ที่ดึงดูดความสนใจชาวเน็ตอย่างท่วมท้น คือข่าวสัมภาษณ์เด็กนักเรียนชั้นประถมปีที่ 1 ในกวางเจา

เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา เป็นวันเปิดเทอมของเด็กนักเรียน ผู้สื่อข่าวประจำสื่อของรัฐแห่งแดนใต้ “หนันฟางตูซื่อ” (南方都市报หรือชื่อภาษาอังกฤษคือ Southern Metropolis Daily) ก็ได้รุดไปยังโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาประจำกว่างโจว หรือกวางเจา เมืองเอกของมณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) สัมภาษณ์บรรดาเด็กน้อยอนาคตของชาติในวันหน้า

“โตขึ้นหนูอยากเป็นอะไรค่ะ?” ผู้สื่อข่าวถามเด็กน้อยในวัยที่ใครต่อใครมักเปรียบเสมือนผ้าขาวสะอาด

“หนูอยากเป็นครู”

“หนูอยากเป็นศิลปินเขียนภาพ”

“หนูยังไม่รู้เลยค่ะ....ฯลฯ

“อยากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐค่ะ” เด็กหญิงวัย 6 ขวบ ที่กำลังขึ้นชั้นป. 1 คนหนึ่งตอบ

“แล้ว หนูอยากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐแบบไหนค่ะ” ผู้สื่อข่าวถามต่อ

“เจ้าหน้าที่รัฐที่คอรัปชั่นค่ะ เพราะจะได้มีของเยอะแยะ” หนูน้อยตอบ

หนันฟางตูซื่อ รายงานการสัมภาษณ์ของเด็กหญิงผู้ฝันอยากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐคอรัปชั่นเพราะมี ทรัพย์สมบัติมากมายนี้ ไม่ทันข้ามวัน...ก็ผู้อ่านบทสัมภาษณ์กว่าหมื่น และกลายเป็นข่าวจุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เผ็ดร้อนมากที่สุด

จากการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับความฝันอยากเป็นเจ้าหน้าที่คอรัปชั่นของหนูน้อยวัย 6 ขวบนี้ ปรากฏผลว่า

10 เปอร์เซนต์ บอกว่า “เป็นแค่ความคิดแบบเด็กๆ ไร้สาระ”

และอีก 55 เปอร์เซนต์ บอกว่า “มันสะท้อนถึงความจริงในสังคม”

ชาวเน็ตคนหนึ่งโพสต์ข้อความว่า “ฮ่า ฮ่า... ลัทธิสังคมนิยมได้เสนอ “ฉลองพระองค์ชุดใหม่ของพระจักรพรรดิ” เวอร์ชั่นใหม่แล้ว

อีกคนโพสต์ว่า “มลพิษจากชีวิตบัดซบได้ปนเปื้อนเด็กๆแล้ว เราจะสั่งสอนเด็กชั่วรุ่นใหม่กันอย่างไร?”

ทั้ง นี้ ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา แถลงเตือนหลายครั้งว่า “คอรัปชั่นเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงของชาติ ที่อาจล้มการปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์”

หนังสือพิมพ์หนันฟาง ตูซื่อ ซึ่งเป็นสื่อของรัฐ รายงานข่าวฮือฮาในสัปดาห์เปิดเทอมของเมืองจีน คือข่าวสัมภาษณ์ เด็กนักเรียนชั้นประถมให้สัมภาษณ์ความฝันว่า “เมื่อโตขึ้นหนูอยากเป็นเจ้าหน้าที่คอรัปชั่น” -ภาพเอเจนซี
กลุ่มผู้ใหญ่วิจารณ์เครียด

อย่างไรก็ตาม คำตอบบทสัมภาษณ์ของหนูน้อยวัย 6 ขวบ ที่อยากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐคอรัปชั่น ก็สร้างความเครียดแก่ผู้ใหญ่บางกลุ่ม เฟิ่งหวง (Phoenix-ifeng.com) สื่อยักษ์ใหญ่แห่งฮ่องกง เสนอบทวิจารณ์ต่อข่าวนี้เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ดังนี้

คำพูดของเด็ก สะท้อนถึงความจริงอันแสนเลวร้ายของโลกผู้ใหญ่ ขณะนี้รัฐบาลยิ่งขยายปฏิบัติการต่อต้านคอรัปชั่น คอรัปชั่นกลับยิ่งขยายตัว”

แต่สิ่งที่น่ากลัวมากยิ่งไปกว่านั้น มิใช่คอรัปชั่นโดยตัวของมันเอง แต่คือ “อิทธิพลของกระแสคอรัปชั่นที่แพร่ขยายไม่ผิดอะไรกับการแพร่เนื้อร้ายมะเร็ง”

เมื่อพูดถึง “คอรัปชั่น” ผู้คนต่างแสดงท่าทีรังเกียจ แต่เมื่อตัวเองมีโอกาสทุจริต กลับเป็นเรื่องยากที่จะหักห้ามใจตัวเอง มิให้กลายเป็น “สมาชิกคอรัปชั่น” ไปเสียอีกคน

ชาวเน็ตผู้หนึ่งตอบการสำรวจในประเด็นนี้ว่า “ทุ่มเงินเลี้ยงดูปูเสื่อ ใช้เส้นสาย ขอความช่วยเหลือพวกพ้อง ติดสินบนให้ช่วยจัดการธุระผลประโยชน์, พวกเราต่างก็เกลียดคอรัปชั่น แต่ก็เสพคอรัปชั่นเช่นกัน, บริภาษเจ้าหน้าที่โกงกิน แต่ก็อิจฉาเจ้าหน้าที่คอรัปชั่นผู้มั่งคั่ง, และในที่สุดคอรัปชั่นก็ได้สังหารจิตใจพวกเรา กระทั่งพวกเราเองก็ได้กลายเป็นโฆษกของการคอรัปชั่น”

เมื่อคอรัปชั่นกลายเป็นวัฒนธรรมด้านหนึ่ง มันก็ไม่ผิดอะไรจากมะเร็งร้ายที่ยิ่งเติบโต และทัศนะต่อคอรัปชั่นของคนจำนวนมากที่ตอนแรกเห็นมันเป็น “สิ่ง เลวร้ายน่ารังเกียจ” ก็ค่อยๆแปรเปลี่ยนไปเป็น “ความเคยชิน” และในที่สุด “เมื่อเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมไม่ได้ ก็ปรับจิตใจให้เคยชินกับมัน”

ดังนั้น เมื่อเผชิญปรากฎการณ์ “แม้แต่เด็ก ป. 1 ยังถูกวัฒนธรรมคอรัปชั่นกลืนกิน ถึงกับฝันอยากเป็นเจ้าหน้าที่คอรัปชั่น” เช่นนี้แล้ว ก็ควรอย่างยิ่งที่พวกเราจะหันมาทบทวนประเพณีค่านิยม และเริ่มต้นกันใหม่ในการแสวงหาการปกครองและสร้างความศรัทธาสังคม มิฉะนั้นแล้ว คอรัปชั่น ก็จะกลายเป็น “โรคมะเร็งขั้นสุดท้าย ที่ไม่มียารักษาได้แล้ว”.

ไม่มีความคิดเห็น: