วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2552

สัญลักษณ์วันคริสต์มาส

รูปภาพของ nathavut
สัญลักษณ์วันคริสต์มาส

สัญลักษณ์คริสต์มาสต่างๆ ที่น่าดึงดูดใจมีความเป็นสากลเท่าๆ กับที่มีความสวยงาม โดยรวมแล้วสัญลักษณ์เหล่านี้สื่อถึงความสงบสุขและจิตใจที่เอื้อเฟื้อเผื่อ แผ่ ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับวันคริสต์มาสซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองคริสต สมภพ คริสต์มาสเป็นช่วงเวลาแห่งการให้ เป็นช่วงเวลาที่จิตใจของทุกคนเปล่งประกายไปด้วยความสงบสุขและความปรารถนาดี ผู้ที่ฉลองเทศกาลคริสต์มาสจะแขวนสัญลักษณ์เหล่านี้ไว้กับต้นคริสต์มาส ที่ประดับประดาด้วยไฟกระพริบ ของประดับที่เป็นประกายต่างๆ ริบบิ้นเส้นยาว และหิมะปลอมเพื่อเลียนแบบฤดูหนาว สัญลักษณ์เหล่านี้หลายชิ้นเป็นสิ่งแทนความรู้สึกที่เป็นมงคลอย่างวิเศษ ฉบับนี้เราได้นำความหมายที่อยู่เบื้องหลังสัญลักษณ์เหล่านี้มาบอกต่อ เพื่อให้การตกแต่งต้นคริสต์มาสของคุณในปีนี้เป็นกิจกรรมที่มีคุณค่ามากยิ่ง ขึ้น

นกพิราบคาบกิ่งมะกอก
นก พิราบเป็นสัญลักษณ์สากลแห่งความสงบ และเมื่อมาพร้อมกับกิ่งมะกอกก็จะหมายถึง “การขอให้ยกโทษให้” หรือ “การยอมให้” เบื้องหลังของสัญลักษณ์นี้มีความหมายที่สวยงามทีเดียว เพราะมันสื่อถึงการที่เราแสดงความนอบน้อมเพื่อให้เกิดความสงบสุขและความ ปรารถนาดีระหว่างมนุษย์ ด้วยเหตุนี้นกพิราบจึงเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงจิตวิญญาณแห่งคริสต์มาสซึ่ง เป็นส่วนหนึ่งของมิตรภาพและคุณงามความดีได้อย่างทรงพลัง

พอยน์เซ็ทเทียส์
พอยน์ เซ็ทเทียส์ (Poinsettias) หรือที่คนไทยเรียกว่า “ต้นคริสต์มาส” เป็นพืชท้องถิ่นของเม็กซิโกที่ตั้งตามชื่อของ โจแอล พอยน์เซ็ทท์ผู้เป็นทูตคนแรกของอเมริกาที่ไปประจำการที่ประเทศเม็กซิโก และเป็นผู้นำต้นไม้ชนิดนี้มายังอเมริกาในปี 1828 ชาวเม็กซิกันมองว่าพืชชนิดนี้เป็นสัญลักษณ์ของ “ดาวแห่งเบธเลเฮม” ดังนั้นพอยน์เซ็ทเทียจึงเข้ามามีความเกี่ยวพันกับฤดูกาลคริสต์มาส ดอกจริงๆ ของต้นพอยน์เซ็ทเทียจะมีขนาดเล็กและมีสีเหลือง แต่ส่วนที่อยู่ล้อมรอบดอกเป็นใบสีแดงสดใสขนาดใหญ่ซึ่งมักถูกเข้าใจว่าเป็น กลีบดอก

ต้นคริสต์มาส
ต้น คริสต์มาสถือกำเนิดขึ้นในประเทศเยอรมันในศตวรรษที่ 16 และชาวเยอรมันก็ตกแต่งต้นสนเฟอร์ของพวกเขาด้วยดอกกุหลาบ ผลแอปเปิ้ล และกระดาษสายรุ้งกันเป็นเรื่องธรรมดา กล่าวกันว่ามาร์ติน ลูเธอร์ ผู้ปฏิรูปนิกายโปรเตสแตนท์เป็นบุคคลแรกที่เริ่มนำเทียนไขมาจุดประดับที่ต้น คริสต์มาส ระหว่างทางที่กลับบ้านในคืนฤดูหนาวคืนหนึ่งที่ใกล้ถึงวันคริสต์มาส เขาตะลึงกับความงามของแสงดาวระยิบระยับที่ส่องลอดผ่านกิ่งไม้และต้นสนเฟอร์ ต้นเล็กๆ ที่อยู่นอกบ้านของเขา ด้วยเหตุนี้เขาจึงจำลองแสงดาวเหล่านี้ด้วยการนำเทียนไขมาติดเอาไว้ที่กิ่ง ของต้นคริสต์มาสในบ้านของเขา และไม่นานการปฏิบัติเช่นนี้ก็เป็นที่นิยมและแพร่หลายมาสู่อังกฤษช่วงศตวรรษ ที่ 19

มิสเซิลโท
เชื่อ กันว่ามิสเซิลโทมักถูกนำมาใช้เฉลิมฉลองการมาเยือนของฤดูหนาว ต้นพืชซึ่งมีใบเขียวตลอดปีนี้ถูกนำมาใช้ตกแต่งบ้าน เพราะเชื่อว่ามิสเซิลโทมีพลังวิเศษในการบำบัดโรคทุกชนิดตั้งแต่การมีลูกยาก ของผู้หญิงไปจนถึงการแก้พิษต่างๆ ชาวสแกนดิเนเวียนถือว่ามิสเซิลโทเป็นพืชแห่งความสงบสุขและความปรองดอง และมีความเกี่ยวพันกับเทพธิดาฟริกกาซึ่งเป็นเทพธิดาแห่งความรักของพวกเขา ธรรมเนียมในการจุมพิตกันใต้ต้นมิสเซิลโทเกิดจากความเชื่อที่ว่าการจูบกันใต้ กิ่งของต้นพืชชนิดนี้จะช่วยเสริมสร้างความรักระหว่างคู่รักได้

พวงหรีดคริสต์มาส
การ แขวนพวงหรีดไว้ที่หน้าประตูเป็นธรรมเนียมที่เริ่มขึ้นในยุโรปที่มีการนำเอา กิ่งของต้นไม้ที่เขียวสดตลอดปีมาใช้ประดับทางเข้าประตูในช่วงคริสต์มาสเพื่อ เชื้อเชิญภูติแห่งป่าไม้เข้ามาในบ้าน ชาวยุโรปเชื่อว่าภูติเหล่านี้จะนำสุขภาพและโชคลาภที่ดีมาให้ ทุกวันนี้ผู้คนก็ยังคงประดับบ้านด้วยพวงหรีดที่ทำจากกิ่งฮอลลีและกิ่งไม้ที่ มีใบสีเขียวสดเพื่อเป็นการต้อนรับเพื่อนฝูงและญาติ รูปทรงกลมของพวงหรีดสื่อถึงความรักอมตะไม่มีวันโรยรา หยุดชะงัก หรือสิ้นสุด เพราะเป็นวงกลมแห่งความรักที่ต่อเนื่อง พวงหรีดคริสต์มาสมักประดับด้วยโบว์ กระดิ่ง และสัญลักษณ์แห่งเทศกาลแบบอื่นๆ

ดาว
ต้น คริสต์มาสหลายต้นจะมีดาวประดับอยู่บนยอด เชื่อกันว่าดาวเป็นสิ่งที่นำทางไปสู่ความประจักษ์แจ้งที่วิเศษและในสมัย โบราณก็มีการบูชากลุ่มดาวมากมาย เช่น กลุ่มดาว “หมีใหญ่” และกลุ่มดาว “หมีเล็ก” เป็นเสมือนเทพเจ้า ชาวฮิบรูโบราณใช้ “ดาวหกแฉกของเดวิด”เป็นสัญลักษณ์ทางศาสนา ในขณะที่ “ดาวคริสต์มาสห้าแฉก” เป็นสัญลักษณ์ของดาวที่ปรากฏขึ้นเหนือนครเบธเลเฮมในคืนวันที่พระเยซูประสูติ ในหลายๆ วัฒนธรรม ดวงดาวเป็นสัญญาณของโชคลาภและการบรรลุเป้าหมายใหม่ๆ

ถุงเท้า
ใน ศตวรรษที่ 18 เด็กๆ ในฮอลแลนด์จะวางรองเท้า “คล็อก ชู” (clog shoes - รองเท้าเปิดส้นและคลุมนิ้วเท้าด้านหน้า คล้ายรองเท้าแตะ แต่จะยกพื้นขึ้น พื้นจะมีความหนาและแข็งแรงและคล็อกชูแบบดั้งเดิมจะใช้ไม้ในการทำพื้นรองเท้า ) ไว้ข้างเตาผิงโดยหวังว่า “ซินเตอร์คลาส” (Sinterclass) จะนำของขวัญมาใส่เอาไว้ให้ ต่อมาคล็อกชูก็กลายมาเป็นถุงเท้ายาว และซินเตอร์คลาสก็กลายเป็นซานตาคลอส จนถึงทุกวันนี้ผู้คนมากมายก็ยังใช้ถุงเท้าคริสต์มาสเป็นที่ใส่ของขวัญชิ้น เล็กๆ มอบให้แก่เด็กๆ และคนที่รัก


ลูกกวาดไม้เท้า
ว่า กันว่าขนมหวานชนิดนี้เตือนให้ทุกคนนึกถึงทุกอย่างที่เกี่ยวกับคริสต์มาสด้วย สีขาวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์และความนิรมลของพระเยซู ส่วนแถบเล็กๆ สามแถบคือพระบิดา พระบุตร และพระจิต แถบหนาสีแดงเป็นสัญลักษณ์ของโลหิตของพระเยซูที่หลั่งออกมาเพื่อชำระบาปของ มนุษย์ เมื่อมองไปที่ปลายโค้งงอที่อยู่ด้านบน จะดูเหมือนไม้เท้าของคนเลี้ยงแกะ เนื่องจากพระเยซูคือชุมพาบาลของมวลมนุษย์ และเมื่อกลับด้านบนลงมา ก็จะกลายเป็นตัวอักษร J ซึ่งแทนชื่อของพระเยซู (Jesus)

ซานตาคลอส
ซานตาคลอส เป็นสัญลักษณ์ของการเฉลิมฉลองรื่นเริงและของขวัญมากมาย ต้นกำเนิดของซานตาคลอสก็คือนักบุญนิโคลาสผู้มีชีวิตอยู่ในศตวรรษที่ 4 เขาเป็นที่เลื่องลือในเรื่องความรักเด็กและมีถุงของขวัญใบใหญ่ ภาพของซานตาคลอสในปัจจุบันคือชายร่างอ้วนหน้าตายิ้มแย้มในชุดสีแดง และซานตาคลอสยังทำให้เรานึกถึงพระยิ้มของจีนอีกด้วย


Marry Chirstmas !!

ไม่มีความคิดเห็น: